พ่อแม่ผู้ปกครองต้องรู้!สิทธิในการรับเงินอุดหนุนบุตร เดือนละ 600 บาท และ เงินสงเคราะห์บุตร เดือนละ 800 บาท ทำอย่างไรถึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ในเงินช่วยเหลือเยียวยาก้อนนี้ วันนี้ "ฐานเศรษฐกิจ"จึงได้รวบรวมข้อมูล เงื่อนไขในการสมัครลงทะเบียนมามัดรวมนำเสนอ อย่างไรก็ดีก่อนจะลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาทั้งเงินอุดหนุนบุตร และ เงินสงเคราะห์บุตร ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าทั้ง 2 โครงการมีวัตถุประสงค์ หรือ มีกระทรวงมีกรมใดเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ดังต่อไปนี้
เงินอุดหนุนบุตร
เงินสงเคราะห์บุตร
เมื่อรู้กันแล้วว่า เงินช่วยเหลือของทั้ง 2 โครงการใครเป็นเจ้าภาพ ต่อมาก็มาดูกันว่าคุณสมบัติของพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะลงทะเบียนขอรับเงินนั้น จะต้องมีอะไรบ้าง
เงินอุดหนุนบุตร เดือนละ 600 บาทต่อเดือน
คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน
ผู้ปกครอง
เด็กแรกเกิด
การลงทะเบียน ณ หน่วยรับลงทะเบียนตามจุดต่างๆได้แก่
กรุงเทพมหานคร
เมืองพัทยา
ส่วนภูมิภาค
เอกสารประกอบการลงทะเบียน ณ หน่วยลงทะเบียน
1.แบบคำร้องขอลงทะเบียน (ดร.01)
2.แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02)
3.สูติบัตรเด็กแรกเกิด
4.บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง
5.ใบรับรองเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ ของสมาชิกในครัวเรือนทุกคนที่ประกอบอาชีพ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือ พนักงานบริษัท
6.สำเนาเอกสาร หรือบัตรข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ บัตรแสดงสถานะหรือตำแหน่ง หรือเอกสารอื่นใด ที่แสดงตนของผู้รับรองคนที่ 1 และผู้รับรองคนที่ 2
การลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเงินเด็ก
เอกสารประกอบการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเงินเด็ก
ยื่นคำร้องขอลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเงินเด็ก โดยให้ยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน D.DOPA ก่อน(การยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน D.DOPA จะต้องมีการพิสูจน์ตัวตนก่อนในครั้งแรก ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือ สำนักงานเขต) พร้อมแนบเอกสารในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นหลักฐาน ดังต่อไปนี้
1.หลักฐานในการรับรองสถานะครัวเรือน พร้อมภาพถ่ายบัตรประจำตัวเจ้าที่ของรัฐ บัตรหรือเอกสารอื่นใดที่แสดงสถานะ หรือ ตำแหน่งของผู้รับรองคนที่ 1 และผู้รับรองคนที่ 2
2.ใบรับรองเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองรายได้ ของสมาชิกในครัวเรือที่มีรายได้น้อยทุกคน กรณที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือ พนักงานบริษัท
ตรวจสอบสถานะสิทธิการรับเงินเงินหนุนบุตรผ่าน 3 ช่องทาง
เงินสงเคราะห์บุตร เดือนละ 800 บาทต่อเดือน
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร
1.แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)
2.กรณีผู้ประกันตนเคยยื่นใช้สิทธิแล้วและประสงค์จะใช้สิทธิสำหรับบุตรคนเดิม ให้ใช้หนังสือขอใช้สิทธิบุตรคนเดิมกรณีกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน จำนวน 1 ฉบับ
3.กรณีผู้ประกันตนหญิงใช้สิทธิ
4.กรณีผู้ประกันตนชายใช้สิทธิ
5.กรณีเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลด้วย จำนวน 1 ชุด
6.กรณีผู้ประกันตนต่างชาติขอรับประโยชน์ทดแทนให้ใช้สำเนาบัตรประกันสังคมและสำเนาหนังสือเดือนทาง (passport) หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราวหรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้ จำนวน 1ชุด
7.สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอ จำนวน 1 ฉบับ ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน ดังนี้
พร้อมเพย์ที่ลงทะเบียนด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน
เอกสารประกอบการยื่นคำขอฯ ที่เป็นสำเนาให้รับรองความถูกต้องของสำเนาทุกฉบับ และแสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ กรณีเอกสารหลักฐานสำคัญต่อการพิจารณาเป็นภาษาต่างประเทศให้จัดทำคำแปลเป็นภาษาไทยและรับรองความถูกต้องให้ครบถ้วน
ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน
1.ผู้ประกันตนต้องกรอกแบบ สปส.2-01 พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่
กรณีผู้ประกันตนยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตร 3 คน ในคราวเดียวกันสามารถใช้แบบคำขอฯ ชุดเดียวกันได้
2.เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณาอนุมัติ
3.สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
4.พิจารณาสั่งจ่าย จ่ายเป็นรายเดือนโดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน
สถานที่ยื่นเรื่องขอรับประโยชน์ทดแทน
กรณีการหมดสิทธิรับเงินกรณีสงเคราะห์บุตร
อนึ่งกรณีที่ผู้ประกันตนออกจากงาน เงินสงเคราะห์บุตรจะหยุดจ่าย แต่ต่อมาหากเข้าทำงานกับนายจ้างใหม่ หรือ สมัครมาตรา 39 ต้องยื่นเอกสาร ขอใช้สิทธิบุตรคนเดิม ที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ที่สะดวก (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข)
การขอใช้สิทธิบุตรคนเดิมกรณีกลับเข้าเป็นผู้ประกันตนใหม่นั้น บุตรจะต้องอายุไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้จะได้รับสิทธิสงเคราะห์บุตรย้อนหลังไม่เกิน 2 ปีและได้รับเงินเฉพาะเดือนที่ผู้ประกันตนมีการนำส่งเงินสมทบเท่านั้น
หลักฐานที่ใช้ในการยื่นเรื่อง
ระยะเวลาการอนุมัติสิทธิกรณีสงเคราะห์บุตร
ในการยื่นครั้งแรก และ การยื่นเรื่องขอใช้สิทธิบุตรคนเดิมกรณีกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน หากยื่นเอกสารครบถ้วน มีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไข และไม่ติดสถานะค้างชำระ กรณีประกันสังคมติดตามเงินประโยชน์ทดแทนเกินสิทธิ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสิทธิและเงินสมทบ ข้อมูลการเข้า-ออกงานของผู้ประกันตนภายใน 3 เดือน โดยเงินจะเข้าบัญชีธนาคารภายในสิ้นเดือนที่ 4 (เช่น ผู้ประกันตนมีสิทธิเดือนกันยายน เงินสงเคราะห์บุตรของเดือนกันยายน จะโอนเข้าบัญชีธนาคารให้ผู้ประกันตนในสิ้นเดือนธันวาคม)
อีกหนึ่งช่องทางที่พ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถลงทะเบียนรับเงินสงเคราะห์บุตร คือช่องทางออนไลน์ ผ่าน e-Self Service โดยมี 6 ขั้นตอน
1.เข้าเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th (คลิกที่นี่)
2.กด "เข้าระบบผู้ประกันตนประกันสังคม"
3.เลือกระบบ "e-Self Service"
4.เลือก "ขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม"
5.เลือก"สงเคราะห์บุตร"
6.กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน แล้วอัพโหลดเอกสาร
ที่มาข้อมูล-ภาพ