19 กันยายน 2566 ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ไทย คนไทยต่างแสดงความยินดี นาทีที่ "ยูเนสโก" ประกาศขึ้นทะเบียน “เมืองโบราณศรีเทพ” เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของไทย แห่งที่ 4 ในรอบ 31 ปี ต่อจาก เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัย เมืองประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง
โดยก่อนหน้านี้ นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ระหว่างวันที่ 10 – 25 ก.ย. 2566 ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยวาระสำคัญเกี่ยวข้องกับประเทศไทย คือ "เมืองโบราณศรีเทพ" ถูกบรรจุในวาระการพิจารณาที่ 31 คาดผลการพิจารณาจะประกาศช่วงวันที่ 19 ก.ย.2566 เนื่องจากเวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทยประมาณ 4 ชั่วโมง
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่เมืองโบราณศรีเทพถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม จากการประชุมครั้งนี้ ทำให้ไทยมีแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม 4 แห่ง นับเป็นการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมในรอบ 30 ปี
"เป็นความภาคภูมิใจของไทย หวังว่าจะเป็นการขับเคลื่อนให้เกิดความหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติและสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ เเละขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวของไทย ขอส่งความยินดีให้คนไทยและเชิญชวนได้มาสัมผัสความสวยงาม และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน"
ทั้งนี้ก่อนที่ "เมืองโบราณศรีเทพ" จะได้รับการประกาศเป็น "มรดกโลก" ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมศิลปากร ได้เตรียมความพร้อมนับสิบปี มีการผลักดันและดำเนินการตามกระบวนการเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของยูเนสโกอย่างครบถ้วนและสมบูรณ์