จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดตราด โดยเฉพาะอำเภอบ่อไร่ และอำเภอเขาสมิง จ.ตราด ซึ่งสามารถปริมาณฝนตกได้เกินกว่า 120 มม.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (28 ก.ย. 2566)ที่อำเภอเขาสมิง ที่ตำบลสะตอ นายปราโมทย์ จันทร์กระจ่าง นายก อบต.สะตอได้เข้าไปตรวจสอบน้ำท่วมในพื้นที่หลังเกิดฝนตกหนัก ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 27 กันยายน 2566 ต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 28 กันยายน 2566
พบว่า มี 5 หมู่บ้านมีน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร และถนนเข้าหมู่บ้าน หลายแห่ง มีระดับความสูงตั้งแต่ 80-150 ซม.รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้ และมีบ้านเรือนจำนวนกว่า 20 หลังคาเรือนมีน้ำท่วม โดยเฉพาะที่บ้านทุ่งกระบอก หมู่ 7 ที่มีบ้านเรือนจำนวนหนึ่งถูกน้ำท่วม ส่วนหมู่อื่นๆที่ท่วมพื้นที่นั้น ประกอบด้วย หมู่ 1 ตาพลาย หมู่ 7 บ้านทุ่งกระบอก หมู่ 5 บ้านคลองปุก หมู่ 9 บ้านรื่นรมย์สามัคคี หมู่ 4 บ้านวงษ์พัฒนา ต.สะตอ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นจุดเดิมที่เคยท่วมอยู่ประจำ
นายกอบต.สะตอว่า พื้นที่น้ำท่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 และมีแนวโน้มจะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะมีมวลน้ำจากอำเภอบ่อไร่ไหลลงมารวมกันในพื้นที่ต.สะตอ จากคลองโสน และคลองสะตอที่มีมาจากเขื่อนคิรีธาร อ.มะขาม ซึ่งไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ทำให้เกอดน้ำท่วมใน 5 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดิมๆที่น้ำท่วมอยู่เป็นปกติ ขณะที่ถนนหลายสายน้ำท่วมรถยนต์ไม่สามารถไปมาได้เช่นกัน
นายพงษ์พัฑฒ์ สินราย นายอำเภอเขาสมิง กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมจากที่ได้รับแจ้งมีเพียงที่ตำบลสะตอเท่านั้นที่มีน้ำท่วม แต่ก็เป็นพื้นที่เดิม ซึ่งน้ำรอการระบาย อย่างไรก็ตาม ทางอำเภอเขาสมิงได้ให้ความช่วยเหลือแล้ว อีกทั้งประชาชนในพื้นทีทปรับตัวมและสามารถช่วยตัวเองได้ระดับหนึ่งแล้ว
ขณะที่แนวโน้มนั้น หากไม่มีฝนตกลงมาอีก ระดับน้ำจะลดลง แต่คงต้องใช้เวลา 2-3 วัน ส่วนปริมาณน้ำจากอำเภอบ่อไร่ คาดว่าจะมาเติมในพื้นที่อำเภอเขาสมิงในช่วงต่อไป และอาจจะมีท่วมในอีกหลายตำบล ซึ่งทางอำเภอพร้อมเข้าไปช่วยเหลือ
ขณะที่สถานการณ์น้ำในอำเภอบ่อไร่สามารถวัดปริมาณฝนตกได้ถึง 169 มม. ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองบ่อไร่เพิ่มขึ้น และใกล้ถึงพื้นสะพาน รวมทั้งประตูน้ำวัดบ่อไร่น้ำสูงเกือบถึงล้นสันประตูน้ำ
นายเสรี สำราญจิต นายกเทศบาลตำบลบ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.จราด เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 27 กันยายน 2566 ฝนตกหนักมากในอำเภอบ่อไร่และตกตลอดทั้งวัน ทำให้น้ำจากเขาบรรทัดที่ติดกับฝั่งกัมพูชาไหลงลงมาด้านล่าง ซึ่งไหลลงมาตามคลองบ่อไร่ และลงมาในพื้นที่เทศบาลตำบลบ่อพลอยทำให้ระดับน้ำในคลองบ่อไร่มีความสูงขึ้นถึงระดับวิกฤต แต่โชคดีที่น้ำหยุดไปก่อนทำให้ระดับลดลงไปและมีเช้าวันนี้ ระดับน้ำในคลองบ่อไร่มีความสูงประมาณ 3-4 เมตร อย่างไรก็ตาม ในวันนี้มีแนวโน้มฝนตกหนักในช่วงบ่ายทำให้เทศบาลตำบลบ่อพลอยได้เตรียมความพร้อมในการช่วยประชาชนในพื้นที่ชุมชนที่อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้
บ่ายวันนี้หากมีฝนตกลงมาอีกอาจจะเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ได้ โดยที่น้ำจากน้ำตกคลองแก้ว และบริเวณช่องบ้านหมื่นด่านจะไหลทะลักเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งเทศบาลตำบลบ่อพลอยพร้อมช่วยเหลือประชาชนเต็มที
ขณะที่เวลา 10.00 น.วันที่ 28 กันยายน 2566 ต.ช้างทูน อ.บ่อไร่ ระดับน้ำสูงขึ้นใกล้กับสะพานช้างทูน บริเวณหน้าวัดช้างทูน และไหลท่วมบ้านเรือนจำนวนเกือบ 10 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรทั้งสวนทุเรียนและยางพาราจำนวนมากถูกน้ำท่วมสูง โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่จากอบต.ช้างทูนได้เข้ามาช่วยเหลือประชาชนเพื่อยกทรัพย์สิน และอพยพประชาชนขึ้นในพื้นที่สูงแล้ว
นายเกษม มั่นคง นายกอบต.ช้างทูน เปิดเผยว่า น้ำฝนที่ตกลงมาในขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อ 2 หมู่บ้านคือมบ้านช้างทูนมและบ้านหนองแฟบที่บ้านเรือกว่า 20 หลังคาเรือนเกิดน้ำท่วมโดยเฉพาะที่อยู่ริมฝั่งคลองซึ่งขณะนี้อบต.ช้างทูนได้เข้าไปช่วยเหลือและมอบถุงยั้งชีพไปให้ส่วนหนึ่งแล้ว ขณะที่ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากฝนยังตก และที่บริเวณประตูน้ำช้างทูนได้เปิดประตูน้ำทุกบ้านแล้ว แต่ระดับน้ำสูงจนล้นประตูน้ำทุกบาน
ส่วนคลองหนองบอน ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆหลังน้ำจากเขาบรรทัดไหลลงมาผ่านในพื้นที่แต่ไม่หนักมาก และระดับน้ำเริ่มลดลงจากที่เมื่อคืนวันที่ 27 กันยายน 2566 ที่มีระดับน้ำสูงขึ้นและไหลล้นประตูน้ำในพื้นที่ต.หนองบอน
ต่อมาเวลา 11.30 น.ได้เกิดดินสไลด์ทับศาลาการเปรียญวัดป่าวิสุทธิธรรม ต.หนองบอน ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยผนังศาลาการเปรียญพังไปมีความยาวประมาณ 4-6 เมตร ทำให้ทรัพย์สิน เช่น ที่นอน บาตรพระ และทรัพย์สินอื่นๆได้รับความเสียหายนับแสนบาท ซึ่งหลังเกิดเหตุนายอนุวัฒ เอี่ยมอ่ำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3ต.หนองบอน.พร้อมด้วยกำลังจากทหารพรานกองร้อยที่ 511 พร้อมพระสมุห์มนตรี ขันติธัมโม(อาวาสวัดป่าวิสุธิธรรม)พร้อมด้วยชาวบ้านและชุดกู้ภัยสว่างบุญช่วยกันขนย้ายสิ่งของภายในวัดมาไว้ในพื้นที่ปลอดภัย
นางสาวจิรพร เสนะสุทธิพันธุ์ กำนันต.หนองบอน กล่าวว่า สถานการณ์ฝนตกหนักที่ตำบลหนองบอนน่าห่วง เนื่องจากฝนยังตกหนัก และมีน้ำป่าไหลจากเขาบรรทัดเข้ามาในพื้นที่ต่อเนื่อง ซึ่งวัดป่าวิสุทธิธรามก็เกิดดินสไลด์เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งนี้เสียหายมากกว่าเก่า ซึ่งครั้งที่ผ่านมาทหารจากนพค.14 บ่อไร่ได้เข้ามาซ่อมแซมมาครั้งหนึ่งแล้ว
ขณะที่สะพาน(คอแล)ข้ามจากต.ช้างทูนกับต.หนองบอนน้ำป่าได้กัดเซาะบริเวณคอสะพานได้รับความเสียหายไป 1 ช่องการจราจรแล้ว ซึ่งหากน้ำยังแรงคาดว่าคอสะพานคอแลจะถูกน้ำป่ากัดเซาะจนขาดและประชาบนจะไม่สามารถเดินทางไปมาผ่านเส้นทางนี้ได้ หากจะเดินทางไปต้องอ้อมไปที่อ.ขลุง และอ.มะขามในจ.จันทบุรี ซึ่งอ้อมมาก และไม่สะดวก จึงเตือนประชาชนชาวหนองบอนหรือผู้ที่สัญจรเส้นทางนี้ต้องวางแผนในการเดินทางด้วย