สรุปเหตุยิงในห้างพารากอน ล่าสุดจับคนร้ายได้แล้วอายุแค่ 14 ปี

วันที่ 3 ตุลาคม 2566 จากเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงบริเวณห้างสยามพารากอน ล่าสุดเมื่อเวลา 17.09 น. ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นพบคนร้ายมีอายุเพียงแค่ 14 ปี ภูมิลำเนา พักอาศัยย่านบางแค นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนสั้น ออโตเมติก  กล็อก 19 ขนาด 9 มม.โดยจับกุมได้ภายในร้านแห่งหนึ่ง สภาพด้านหน้ากระจกแตกทั้งบาน เครื่องใช้ภายในร้านกระจัดกระจาย 

ทั้งนี้ศูนย์เอราวัณระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว 3 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ส่งรพ.ตร. 2 ราย และส่งรพ.จุฬา 1 ราย รพ.หัวเฉียว 1 ราย 

มีรายงานว่าจากสอบปากคำ ผู้ต้องหา ยังคงให้การวกไปวนมา คล้ายมีอาการหลอนว่า จะมีคนมาทำร้าย จึงนำอาวุธปืนมาก่อเหตุทำร้ายคนในห้างดังกล่าว นอกจากนึ้จากการตรวจสอบประวัติ เจ้าตัวได้มาเรียน สถาบันเตรียมความพร้อมก่อนจะเข้าสู่มหาวิทยาลัย ใกล้กับห้างดังกล่าว

ล่าสุด นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลรับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม ลงพื้นที่พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และพล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 ได้เดินทางถึงพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 14 ปี

สำหรับเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงในห้างสยามพารากอนในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณช่วงสี่โมงเย็น โดยผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เหตุการณ์ยิงกันในห้างพารากอน ย่านปทุมวัน เป็นเรื่องจริง และได้สั่งการให้ ตำรวจ สน.ปทุมวันอพยพประชาชนที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียงออกจากห้าง 

ส่วนจุดที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้แน่ชัด ในส่วนของผู้ก่อเหตุยังคงอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ฝากเตือนประชาชนขอให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน โดนเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค​ลี่คลายสถานการณ์ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด

สำหรับผู้ก่อเหตุคนร้ายเป็นชาย ลักษณะผมสั้น ได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้บาดเจ็บ บริเวณห้องน้ำข้างร้านหรู  โดยตัวผู้ก่อเหตุอยู่ที่ชั้นสองฝั่งศูนย์การค้า ตำรวจอยู่ระหว่างการปิดล้อม  ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ที่บริเวณร้านหรู ชั้น 1 ได้มีพนักงานและประชาชนหลบอยู่ด้านหลังร้านประมาณ 30 คน

โดยปฎิบัติการในครั้งนี้  ทางกองบัญชาการสอบสวนกลาง ได้มีการจัดส่งชุด “หนุมาน” เข้าระงับเหตุดังกล่าว