นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า หรือ กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) และเพจบุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร เปิดเผยว่า ปัจจุบันเด็กและเยาวชนไทยต้องประสบปัญหากับการไม่ยอมรับความจริงของหน่วยงานสาธารณสุขไทยรวมถึงเครือข่ายหมอเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ที่กำลังวิ่งเต้นกับพรรคการเมือง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หรือกระทั่งผู้มีชื่อเสียงให้สนับสนุนมาตรการแบนทิพย์
ทั้งนี้ แม้จะพบว่าการแบนนั้นนอกจากจะไม่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังกลับทำให้บุหรี่ไฟฟ้าแพร่ระบาดอย่างไม่สามารถควบคุมได้ โดยผลสำรวจของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าปัจจุบันมีเยาวชนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้า 9.1% ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายที่ลักลอบนำเข้ามาขาย"
"เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะเสนอทางออกแก้บุหรี่ไฟฟ้าหลังสภาผู้แทนราษฎรโหวตเห็นชอบตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้า"
นางสาวพนิดา มงคลสวัสดิ์ ส.ส. สมุทรปราการเขต1 กล่าวว่า แค่ยืดยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอยู่จริงในสังคมไทย เท่านี้ก็เพียงพอต่อการสร้างมาตรการป้องกันผู้สูบหน้าใหม่ได้แล้ว เวลานี้ต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมา นำสิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน
อย่างไรก็ดี อีกหนึ่งปัญหาของบุหรี่ไฟฟ้าก็คือ เมื่อไม่มีกฎหมายควบคุมชัดเจน จึงเป็นการสร้างช่องโหว่ทางกฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจเรียกรับประโยชน์จากประชาชนโดยไม่มีกฎหมายรองรับ เพื่อให้การดำเนินคดีทางกฎหมายมีมาตรฐานเดียวกัน เราต้องเร่งผลักดันให้มีกฎหมายควบคุมชัดเจน เป็นไปตามบริบทของยุคสมัยความเป็นจริงในประเทศไทยและสากล
สำหรับประโยชน์ของการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งสิ่งที่ต้องตระหนักถึงมี 4 เรื่องใหญ่ๆ ได้แก่ 1.ความปลอดภัยของผู้สูบ ,2.ความปลอดภัยของผู้ที่ไม่ได้สูบ ,3.รัฐจะได้ประโยชน์จากบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไร และ4.การป้องกันนักสูบหน้าใหม่
"ถึงเวลาแล้วที่เราต้องยอมรับว่าในสังคมไทยมีบุหรี่ไฟฟ้าอยู่จริง แล้วรัฐก็ไม่สามารถขจัดให้หมดไปจากสังคมได้ สิ่งที่รัฐจำเป็นต้องทำคือการเป็นผู้เข้ามาควบคุมกำกับดูแลการใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ขอสนับสนุนให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาศึกษาประโยชน์ของการมีกฎหมายเพื่อควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ให้เหมาะกับบริบทความเป็นจริงของสังคมไทยในปัจจุบัน”
ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรได้โหวตเห็นชอบต่อญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อให้เหมาะสมกับบริบทความเป็นจริงในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กล่าวว่า ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ หรือ FCTC COP10 ที่ประเทศปานามา ซึ่งจะเห็นว่านายกรัฐมนตรีจะได้ทำตามที่หาเสียงไว้และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ควรให้ผู้แทนของกระทรวงสาธารณสุขสงวนท่าทีของประเทศไทยที่เป็นกลาง เพื่อดูว่าสุดท้ายแล้วผลการศึกษาและข้อสรุปจากคณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างไร