วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานด้านความมั่นคง ศึกษาถึงการกำหนดมาตรการให้ผู้ที่ถือปืนเถือนที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง ได้นำมาคืนกับภาครัฐในระยะเวลากำหนดโดยจะไม่มีความผิด
นายเศรษฐา กล่าวว่า การดำเนินการนี้จะช่วยลดจำนวนปืนที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้ ซึ่งต้องไม่ขัดกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยในเร็ว ๆ นี้จะมีการออกพระราชกำหนดขึ้นมาหนึ่งฉบับ เป็นการนิรโทษกรรมออกมาก่อน แล้วจากนั้นก็ให้ผู้ที่มีปืนเถือนไว้ในครอบครองนำปืนมาคืนได้
“มาตรการนี้ ถือเป็นมาตรการสำคัญมาตรการหนึ่ง รวมไปถึงการลดปืนสวัสดิการด้วย เพื่อให้การเข้าถึงอาวุธที่เป้นภัยอันตรายต่อประชาชนได้ลดน้อยลง” นายเศรษฐา กล่าว
ก่อนหน้านี้ กระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งงดการออกใบอนุญาตให้ร้านค้าอาวุธปืนสั่ง หรือนำเข้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน (แบบ ป.2) และให้เจ้าหน้าที่มีการการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะขอรับใบอนุญาตซื้อปืน (แบบ ป.3) เข้มงวดขึ้น และกำลังเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ เพื่อขึ้นทะเบียนส่งมอบอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย และการจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืนด้วย
สำหรับใบอนุญาต ประเภท ป.12 ซึ่งจะถูกบังคับใช้ ผู้ที่สามารถร้องขอได้ ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย หรือหากไม่ใช่ต้องมีตำรวจระดับผู้บังคับการรับรอง มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป มีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน มีใบรับรองการประกอบอาชีพและเสียภาษี มีหลักฐานความจำเป็นในการพกอาวุธปืน ต้องมีเงินฝากหรือทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท
นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการให้สามารถเข้ามาใช้งานหน่วยงานราชการต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้น และเกิดความเท่าเทียมและปลอดภัย