ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ศาลากลางจังหวัดระนอง นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย นายราชัน มีน้อย ว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นำข้าราชการ ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระนอง เจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วน
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา องค์กรอิสระ ประชาชน ข้าราชการบำนาญ ร่วมสวมใส่เสื้อโทนสีม่วง รวมพลังแสดงความจงรักภักดี แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดกรวยกระทงดอกไม้ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้นได้กล่าวถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งพระศรีรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราช พร้อมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก โปรดดลบันดาลและประทานพรให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ ทรงสมบูรณ์ด้วยพระพลานามัย ปราศจากผองภัยไร้โรคาพาธ ทรงสถิตเป็นพระมิ่งขวัญ ของปวงพสกนิกรชาวไทยตราบจิรัฐิติกาล
จากนั้นได้ถวายความเคารพ พร้อมพสกนิกรชาวระนองทุกคน ก่อนจะร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งเป็นการแสดงความรัก ความจงรักภักดี ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยจังหวัดระนองขึ้นชื่อว่าระนองเมืองแห่งความจงรักภักดี
ทั้งนี้พระราชจริยาวัตรที่ประชาชนทั่วไปได้เห็นประจักษ์ขององค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คือ พระเมตตาและความเอาพระทัยใส่ในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทรงมีพระราชปณิธานที่จะช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ยาก เดือดร้อนโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ เผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ ศาสนา พสกนิกรต่างยกย่อง และชื่นชมในพระบารมี
พระองค์ทรงได้รับการขนานนามว่า "เจ้าฟ้านักพัฒนา" ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะในการศึกษาเล่าเรียน ทรงเป็นทั้งอาจารย์ และ มีโครงการในพระราชดำริเพื่อการพัฒนาหลายโครงการ ใส่ใจการศึกษาโดยการมอบทุนแก่เด็กนักเรียน โครงการส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน สร้างป่า สร้างรายได้ การพัฒนาพื้นที่เฉพาะ หน่วยแพทย์พระราชทาน ความร่วมมือกับต่างประเทศ และอีกมากมาย เพื่อการพัฒนาในทุกมิติแก่พสกนิกรชาวไทยทั่วหล้า