"เงินอุดหนุนบุตร"เดือนเมษายน 2567 เตรียมโอนเข้าบัญชีวันที่ 10 เม.ย.นี้

05 เม.ย. 2567 | 08:53 น.
อัพเดตล่าสุด :05 เม.ย. 2567 | 09:05 น.

"เงินอุดหนุนบุตร"เดือนเมษายน 2567 กรมบัญชีกลางเตรียมโอนเข้าบัญชีวันพุธที่ 10 เม.ย.นี้ เช็คเลยเด็กเกิดเดือนไหนจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาเป็นงวดสุดท้าย

เงินอุดหนุนบุตร หรือ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำเดือนเมษายน 2567 จำนวน 600 บาทต่อเดือน กรมบัญชีกลางจะโอนเข้าบัญชีผู้ปกครองที่ได้รับสิทธิ์ในวันพุธที่ 10 เมษายนนี้ สำหรับผู้ปกครองที่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาสามารถตรวจสอบบัญชีที่ได้ระบุไว้ ส่วนผู้ปกครองรายใหม่ สามารถตรวจสอบสถานะการรับเงินอุดหนุนผ่าน 3 ช่องทางดังต่อไปนี้

  • เว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน คลิกที่นี่
  • แอปพลิเคชัน “เงินเด็ก” คลิกที่นี่
  • แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" คลิกที่นี่

 

สำหรับเงินอุดหนุนบุตร ประจำเดือนเมษายน 2567 เด็กที่เกิดในเดือนพฤษภาคม 2561 จะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาเป็นเดือนสุดท้าย เนื่องจากอายุครบตามเงื่อนไข 6 ขวบ ส่วนเด็กที่เกิดเดือนเมษายน 2561 จะได้รับเงินช่วยเหลืองวดสุดท้ายในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
 

ส่วนผู้ปกครองที่ยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ "เงินอุดหนุนบุตร"สามารถตรวจสอบเงื่อนไข รายละเอียดได้ดังต่อไปนี้ 

คุณสมบัติของพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนบุตร
ผู้ปกครอง

  • เป็นบิดา มารดา หรือ บุคคลอื่นที่เป็นผู้เลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
  • เด็กแรกเกิดต้องอาศัยรวมอยู่ด้วย
  • อาศัยอยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย (สมาชิกในครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ต่อปี )
  • ผู้ปกครองรับเงินผ่านบัญชีที่ผูกบริการพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน

เด็กแรกเกิด 

  • เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี มีสัญชาติไทย
  • อาศัยอยู่กับผู้ปกครองในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย
  • ไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานรัฐและเอกชน 

จุดลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนบุตร 

  • กรุงเทพมหานคร สามารถลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต
  • เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
  • ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล
     

เอกสารประกอบการลงทะเบียน ณ หน่วยลงทะเบียน

  • แบบคำร้องขอลงทะเบียน (ดร.01)
  • แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02)
  • สูติบัตรเด็กแรกเกิด
  • บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง
  • ใบรับรองเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ ของสมาชิกในครัวเรือนทุกคนที่ประกอบอาชีพ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือ พนักงานบริษัท 
  • สำเนาเอกสาร หรือบัตรข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ บัตรแสดงสถานะหรือตำแหน่ง หรือเอกสารอื่นใด ที่แสดงตนของผู้รับรองคนที่ 1 และผู้รับรองคนที่ 2

 
ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันได้ไหม

  • สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เงินเด็ก” ได้แต่ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน 

เอกสารประกอบการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเงินเด็ก

ยื่นคำร้องขอลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเงินเด็ก โดยให้ยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันThaiD ก่อน(การยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD จะต้องมีการพิสูจน์ตัวตนก่อนในครั้งแรก ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือ สำนักงานเขต) พร้อมแนบเอกสารในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นหลักฐาน ดังต่อไปนี้ 


1.หลักฐานในการรับรองสถานะครัวเรือน พร้อมภาพถ่ายบัตรประจำตัวเจ้าที่ของรัฐ บัตรหรือเอกสารอื่นใดที่แสดงสถานะ หรือ ตำแหน่งของผู้รับรองคนที่ 1 และผู้รับรองคนที่ 2 

2.ใบรับรองเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองรายได้ ของสมาชิกในครัวเรือที่มีรายได้น้อยทุกคน กรณที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือ พนักงานบริษัท 

 

ลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนบุตร

ส่วนกรณีที่ผู้ปกครองยื่นลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนบุตรแล้ว แต่ว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี สามารถตรวจสอบแนวทาง การแก้ไขดังนี้


ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนบุตรแล้วแต่เงินยังไม่เข้าบัญชี ต้องทำอย่างไร 

  • ก่อนยื่นเอกสาร ผู้ปกครองต้องตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วนสมบูรณ์ 
  • หากเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์เงินอุดหนุนบุตรจะเข้าภายใน 2 เดือน 
  • หากเงินยังไม่เข้าให้ตรวจสอบสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์  หรือ แอปพลิเคชัน เงินเด็ก

ยื่นเอกสารและบัญชีแล้ว แต่ทำไมเงินเงินอุดหนุนบุตรยังไม่เข้า

  • ก่อนยื่นเอกสาร ให้ผู้ปกครองตรวจสอบว่าได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน 13 หลักกับบัญชีธนาคารแล้วหรือยัง 
  • บัญชีหลักที่ยื่นไปจะต้องมีการเคลื่อนไหว หากไม่มีการเคลื่อนไหวเกิน 6 เดือนจะต้องเปลี่ยนบัญชีใหม่ 


สำหรับผู้ปกครอง ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเงินอุดหนุนบุตร สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางดังต่อไปนี้ 

  • ศูนย์ปฏิบัติการโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08 2091 7245, 08 2037 9767, 08 3431 3533, 06 5731 3199 
  • ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
  • กรมบัญชีกลาง 02-127-7000  Call Center 02-270-6400