ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดการกากแคดเมียมของกระทรวงอุตสาหกรรมว่า ได้มีการหารือร่วมกับ นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เกี่ยวกับเรื่องความพร้อมของพื้นที่ที่จะขนย้ายกากแคดเมียมกลับไปฝังกลบที่แหล่งกากแคดเมียมเดิมที่จังหวัดตาก
ตามแนวทางของคณะกรรมการอำนวยการการขนย้ายกากแคดเมียมและกากสังกะสี ที่ได้มีการประชุมแผนการขนย้ายกากแคดเมียม โดยล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรมได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากส่วนราชการในจังหวัดตากที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งได้ร่วมกันเตรียมความพร้อมในการตรวจสอบพื้นที่หน้างาน เช่น ตรวจสภาพความแข็งแรงของบ่อฝังกลบให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม การตรวจสอบโครงสร้างและพื้นผิวของบ่อปูนซีเมนต์ ระบบรวบรวมน้ำชะล้างและการปูก้นหลุมให้เรียบร้อยตามที่ระบุในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) ตรวจสอบเครื่องจักรในการขนย้ายถุง Big Bag กากแคดเมียมไปฝังกลบ
รวมทั้งมีการตรวจประเมินสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ไม่ให้กระทบกับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบการฝังกลบว่ามีความปลอดภัยตามหลักวิชาการและปลอดภัยต่อประชาชนในพื้นที่มากที่สุด
โดยทางจังหวัดตากได้มีคำสั่งใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ตามมาตรา 29 ประกาศห้ามไม่ให้บุคคลเข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่โรงงานฯพื้นที่ฝังกลบ ในรัศมี 100 เมตร จากบริเวณโดยรอบบ่อกักเก็บกากอุตสาหกรรม ทั้ง 7 บ่อ และอาคารโรงเก็บพัสดุที่มีกากตะกอนแร่แคดเมียมบรรจุในถุงบิ๊กแบ็กภายในอาคาร เป็นระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันประกาศเป็นต้นไป
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมกันตรวจสอบและติดตามโรงงานต้องสงสัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งจากการตรวจสอบในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่พบกากแคดเมียมเพิ่มเติม ทำให้ในปัจจุบันมีปริมาณกากตะกอนแร่แคดเมียมที่พบยังคงอยู่ที่ 12,535 ตัน
แต่ยังได้เน้นย้ำให้ทีมเจ้าหน้าที่ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดยังคงดำเนินการตรวจสอบและติดตามโรงงานและโกดังที่อยู่ในพื้นที่ต้องสงสัย ให้มีการค้นหากากแคดเมียมอย่างต่อเนื่อง