นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาล มีนโยบายให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด กรมศุลกากรได้เข้มงวดกวดขันในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิด เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและเพื่อปกป้องเด็ก เยาวชนและประชาชน ที่อาจได้รับสารพิษจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า
โดยให้เจ้าหน้าที่ตามด่านศุลกากรในพื้นที่ ตรวจเข้มกับสินค้าทุกประเภทที่อาจมีการซุกซ่อนบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักร ทางตู้สินค้าและพัสดุไปรษณีย์ รวมถึงบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสืบสวนหาข่าวลักลอบการนำเข้า
นอกจากนี้ ยังให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรลงพื้นที่ตรวจเข้มร้านค้า โกดัง ที่มีการข่าวแจ้งว่าอาจมีการลักลอบจำหน่ายหรือเก็บบุหรี่ที่ไม่เสียภาษี บุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ อีกด้วย โดยตั้งแต่วันที่ 1– 17 พฤษภาคม 2567 กรมศุลกากรจับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบนำบุหรี่เข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 31 ราย ปริมาณ 1,189,700 มวน มูลค่า 6,730,518 บาท
โดยเป็นบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 14 ราย ปริมาณ 35,336 ชิ้น มูลค่า 5,590,821 บาท รวมทั้งสิ้น 45 ราย ปริมาณ 1,225,036 ชิ้น มูลค่า 12,321,339 บาท
“การกระทำดังกล่าว ถือเป็นความผิดตามมาตรา 242 และมาตรา 246 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง”