กมธ.วิสามัญบุหรี่ไฟฟ้าจ่อชง 3 ทางเลือกแก้ไขปัญหา "บุหรี่ไฟฟ้า" ในไทย

14 มิ.ย. 2567 | 07:09 น.
อัปเดตล่าสุด :14 มิ.ย. 2567 | 07:10 น.

กมธ.วิสามัญบุหรี่ไฟฟ้าจ่อชง 3 ทางเลือกแก้ไขปัญหา "บุหรี่ไฟฟ้า" ในไทย ชี้เป็นสิ่งผิดกฎหมายแต่ใช้กันแพร่หลาย ควรต้องหามาตรการด้านกฎหมาย การควบคุมที่เหมาะสอดคล้องกับสถานการณ์ และสภาพความเป็นจริง

นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ใช้กันแพร่หลาย 

ทั้งนี้ กมธ.จะต้องหามาตรการด้านกฎหมาย การควบคุมที่เหมาะสอดคล้องกับสถานการณ์ และสภาพความเป็นจริง และบริบทของประเทศไทยด้วย ดังนั้นคณะ กมธ. ได้ตั้งคณะอนุ กมธ.2 คณะ คือคณะอนุ กมธ. พิจารณามาตรการด้านกฎหมาย และคณะอนุ กมธ.จัดทำรายงาน

สำหรับแนวทางการพิจารณาของกมธ. มีความเป็นอิสระตามบริบทของประเทศไทย ดังนั้น เมื่อกรรมาธิการฯมีข้อสรุปแล้วเสร็จจึงจะนำเสนอต่อสภาฯ เพื่อให้ฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลตัดสินใจเลือกแนวทาง โดยการเดินทางไปศึกษาดูงานของคณะกมธ.จะเดินทางไปศึกษาดูงานในประเทศจีนระหว่างวันที่ 26-29 มิ.ย.67 เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านกฎหมาย เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อปรับแนวทางของกฎหมายให้สะท้อนสถานการณ์ปัจจุบัน
 

"คณะกรรมาธิการ 35 คนมาจากหลากหลายองค์กร ส่วนราชการ ภาคสังคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้ามาให้ความคิดเห็น ซึ่ง กมธ. ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิและศึกษาผลกระทบต่างๆ ไม่ว่าด้านสุขภาพ ด้านสังคม ด้านเด็กและเยาวชน ด้านเศรษฐกิจและการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงคำนึงสภาพความเป็นจริงของประเทศไทย ซึ่งเป็นปัญหาของสังคมไทยตลอดมา" 

กมธ.วิสามัญบุหรี่ไฟฟ้าจ่อชง 3 ทางเลือกแก้ไขปัญหา "บุหรี่ไฟฟ้า"

สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ กมธ.บินไปดูงานบุหรี่ไฟฟ้าที่ประเทศจีนนั้น การไปศึกษาดูงานดังกลาาวไม่มีผลกระทบใดในการตัดสินใจของกมธ.เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นการศึกษาดูงานในประเทศที่มีขนาดใหญ่ การไปดูงานไม่ได้เป็นการไปโน้มน้าวจิตใจ เพราะทุกคนไม่ได้มีผลประโยชน์ มีอิสระในการที่จะคิดและทำเพื่อส่วนรวม ท้ายสุดจะส่งให้ กมธ.วิสามัญ ทั้ง 35 คน จากโควต้าทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ให้ลงมติว่าจะยึดแนวทางใด คงจะมีการฟังเสียงข้างมาก เสียงข้างน้อย ซึ่งทุกความเห็นของ กมธ.ก็จะบันทึกหมดให้กับสภาฯ เพื่อพิจารณาต่อไป

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เลขานุการฯ และในฐานะประธานคณะอนุ กมธ.พิจารณามาตรการด้านกฎหมายเพื่อควบคุมกํากับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย กล่าวว่า คณะทำงานเข้าใจในบริบทของสุขภาพและการป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน แต่ปัจจุบันกฎหมายยังมีช่องโหว่การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งคณะอนุฯได้ศึกษาแนวทางและได้เสนอต่อ กมธ.ชุดใหญ่ใน 3 แนวทาง ประกอบด้วย 

  • กำหนดให้การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง โดยแบ่งเป็น 2 ทางเลือกคือ แก้กฎหมายปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นประกาศกระทรวงพาณิชย์ คำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้มีความชัดเจนและครอบคลุมถึงการครอบครองและผลิต เพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างจริงจัง และแก้กฎหมายใหม่ในระดับพระราชบัญญัติ เพื่อกำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายแบบเบ็ดเสร็จ โดยรวมหลักการ มาตรการทุกมิติไว้ในกฎหมาย การห้ามผลิต ห้ามนำเข้า การจำหน่าย ห้ามครอบครอง ห้ามโฆษณาการสื่อสาร ต่างๆ รวมถึงห้ามการสูบด้วย
  • กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน คือ Heated Tobacco Product หรือ Heat Not Burn Tobacco เป็นสิ่งที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย โดยแก้ไขกฎหมายให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนเป็นสิ่งที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย แก้ประกาศกระทรวงพาณิชย์ แก้คำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงต้องบัญญัติกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อควบคุมยาสูบแบบให้ความร้อน ให้เป็นยาสูบตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต เก็บภาษีได้ เข้าไปดูในมิติของการควบคุม การเข้าถึง การโฆษณา การสื่อสาร ภายใต้ผลิตภัณฑ์ยาสูบ เป็นต้น
  • กำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้า E-cigarettes และผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน Heated Tobacco Product ทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย โดยแก้กฎหมาย แต่จะคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งทั้ง 3 แนวทางจะนำเสนอ กมธ.ชุดใหญ่ในเร็ววันนี้

อย่างไรก็ดี คณะอนุกมธ.มีข้อสังเกตเพื่อพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย คือ เพิ่มนิยามคำว่า บุหรี่ไฟฟ้า ,น้ำยา ,อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน หรือ Heated Tobacco Product ให้มีความชัดเจน เพื่อให้บังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีมีประสิทธิภาพ มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางกฎหมาย และที่สำคัญที่สุดคือการเพิ่มความเข้มข้นของทุกมาตรการเพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน