นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทีมกรุ๊ป โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Chawalit Chantararat"โดยได้อัพเดตไทม์ไลน์พายุไต้ฝุ่นมาเรีย ว่าจะมีผลต่อไทยหรือไม่ หรือกระทบกับประเทศไหนบ้าง พร้อมกันนั้นยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับสภาพอากาศในประเทศไทยที่ต้องจับตามอง อันเนื่องมาจากปรากฏการณ์ลานีญ่า ที่อาจจะส่งผลต่อเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้สามารถตรวจสอบเนื้อหาทั้งหมดได้ดังนี้
สำหรับประเทศไทย ในกลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป คาดว่าร่องความกดอากาศต่ำ จะเลื่อนต่ำ ลงมาพาดผ่านภาคเหนือและภาคอีสานตอนบน จะทำให้เริ่มมีฝนตกมากขึ้นในพื้นที่ตามแนวร่องความกดอากาศต่ำดังกล่าว
ในภาพรวม จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปจะมีความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่จะมามีผลต่อประเทศไทยต่อไป
พายุไต้ฝุ่นมาเรีย (#05:Maria=หญิงชนพื้นเมืองของเกาะกวม) เป็นพายุลูกที่ 5 ของปีนี้ ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก เคลื่อนตัวอยู่ในทะเลทางตะวันออกของญี่ปุ่น
อนึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา ได้อัพเดทผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม.(นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.)10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 9-18 ส.ค.อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) (วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ) เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย
วันที่ 9-10 ส.ค.67 สถานการณ์ทั่วไทยจะมีฝนน้อยลงบ้าง แต่ยังมีตกบางแห่งด้านรับมรสุม (ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน) และใกล้หย่อมความกดอากาศต่ำ (ภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน) ส่วนใหญ่เป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง ฝนที่เคยตกหนักลดลงเหลือบางจุด บางพื้นที่ ยังเน้นตกทางด้านรับมรสุม ภาคใต้จะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น เนื่องจากระยะนี้มรสุมยังมีกำลังอ่อนลง
ช่วง 11 - 18 ส.ค.67 ฝนจะเพิ่มขึ้นบ้าง มรสุมเริ่มมีกำลังแรงขึ้น แต่การกระจายอาจจะยังตกไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่ แต่ยังต้องเฝ้าระวังและติดตามเนื่องจากยังอยู่ในช่วงกลางฤดูฝน ระยะนี้ยังไม่พบสัญญาณการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนใกล้บริเวณประเทศไทย มีเกิดขึ้นอยู่ทางด้านตะวันออกของประเทศญี่ปุ่นแต่ห่างไกลมากและไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย เตือนผู้ที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นช่วงวันหยุด ตรวจสอบก่อนออกเดิน
ที่มาข้อมูล-ภาพ