เยียวยาน้ำท่วมภาคเหนือ 2567 รัฐบาลช่วยค่าล้างโคลน 10,000 บาท/หลัง

วันนี้ (5 ตุลาคม 2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เปิดเผยในระหว่างการนำคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถึงการความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วมภาคเหนือ ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 8 ตุลาคม 2567 นี้ จะเสนอให้ ครม. พิจารณาปรับเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 

ทั้งนี้รัฐบาลจะให้การเยียวยาในระดับสูงสุดก็คือ 9,000 บาทต่อครัวเรือน ขณะเดียวกันยังมีเงินเยียวยาล่าสุด หลังจากกรมป้องกันสาธารณภัย ได้ตั้งเรื่องและได้รับความเห็นชอบจากกรมบัญชีกลางแล้วคือ ค่าล้างโคลนบ้านละ 10,000 บาทต่อหลังด้วย

“ในวันอังคารนี้ จะเสนอให้ ครม. พิจารณาปรับเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งเป็นไปตามคำบัญชาของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ว่าจะให้การเยียวยาในระดับสูงสุดก็คือ 9,000 บาทต่อครัวเรือน และ ค่าล้างโคลนบ้านละ 10,000 บาทต่อหลัง ซึ่งเป็นการที่เราพยายามจะหาความช่วยเหลือมาให้ประชาชนให้มากที่สุด”

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ได้รับฟังการสรุปสถานณ์ภาพรวมและลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ ณ สะพานด่านแม่สาย ก่อนจะเดินทางไปติดตามดูการช่วยเหลือพื้นฟูในจุดต่าง ๆ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมให้กำลังใจปลัดอำเภอและกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ที่กรมการปกครองได้ระดมกำลังพลทั่วประเทศเข้ามาสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนใน จ.เชียงราย ฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับสถานการณ์น้ำภาพรวมของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายอนุทิน ยอมรับว่า หลังการลงพื้นที่ติดตามพบว่า ในส่วนของปริมาณน้ำนั้นห้ามไม่ได้ มีความเร็ว และแรง แต่ด้วยประสบการณ์ที่พื้นที่ได้เจอมา ทำให้รู้ว่าน้ำมาแล้วจะไปทางไหน สามารถบริหารจัดการได้คล่องตัวในการกู้ภัย 

ขณะที่การฟื้นฟูสภาพ ยอมรับว่า มีความคล่องตัวมากขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือต้องเร่งระบายขยะมูลฝอยและเศษไม้ ต่อไม้ที่มากับน้ำหากติดสะพานปิดกั้นทางน้ำจะทำให้การระบายช้าลง ต้องมีเครื่องมือเครื่องจักรคอยตักออกตลอดเวลา โดยคาดว่าน้ำท่วม ไม่น่าจะเกิดความรุนแรงแล้ว ส่วนการเอาดินออกจากบ้านเรือนประชาชนก็ทำไปได้มากแล้ว โดยจะเร่งทำให้สามารถคืนพื้นที่ให้เร็วที่สุด