นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันนี้ (10 ตุลาคม 2567) ได้เข้าลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมได้เข้าสู่ภาวะคลี่คลายแล้ว แต่ประชาชนหลายหลังคาเรือนยังคงพบกับปัญหาหลังน้ำท่วม รวมถึงโครงข่ายคมนาคมขนส่งในพื้นที่ยังไม่สามารถใช้งานได้เต็มอัตรา
ดังนั้นจึงได้สั่งการทุกหน่วยงานภายใต้กระทรวงคมนาคมให้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าดูแลประชาชนที่ประสบภัย รวมถึงให้เร่งฟื้นฟูโครงข่ายคมนาคมให้กลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ด้านบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาดรวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในพื้นที่พร้อมทั้งติดตามอย่างใกล้ชิดจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ยังได้มอบงบประมาณจำนวน 500,000.- บาท ให้กับจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย
ขณะที่กรมทางหลวง (ทล.) ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งระบายน้ำ และฟื้นฟูเส้นทางคมนาคม และให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ รวมถึงเข้าไปตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมทุกเส้นทางและประชาชนทุกหลังคาเรือน
อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนน้ำท่วม ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับกรมเจ้าท่า (จท.) รายงานว่า ขณะนี้ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยเรือท้องแบนพระราชทาน อุปกรณ์และยานพาหนะต่าง ๆ ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำพื้นที่เสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง
“ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุอุทุกภัยจนถึงวันนี้และยังคงให้ความช่วยเหลือต่อไปจนกว่าประชาชนในพื้นที่จะปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ยังคงเตรียมความพร้อมของเรือและรถให้พร้อมใช้งานในการช่วยเหลือประชาชน” นายสุริยะ กล่าว
ด้านกรมทางหลวงชนบท (ทช.) รายงานว่า สำหรับพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ปัจจุบันได้ระดมเครื่องมือ และเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการเคลียร์ในทุกสายทาง และเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรด้วยความปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย
ทั้งนี้ถนนทางหลวงชนบทในปัจจุบันคงเหลือสายทางที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ และสุโขทัย จำนวน 8 สายทาง สัญจรผ่านไม่ได้ 1 สายทาง สัญจรผ่านได้ 7 สายทาง โดยทางหน่วยงานจะรายงานสถานการณ์เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงข้อมูลและติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกันได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนตามสายทางที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเตรียมการวางแผนเฝ้าระวังสายทางที่อาจเกิดผลกระทบในอนาคต เพื่อช่วยบรรเทาเดือดร้อนให้กับประชาชน
อย่างไรก็ตามปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมมวลน้ำได้กระจายลงสู่พื้นที่ จังหวัดลำพูน กระทรวงฯ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนตามสายทางที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเตรียมการวางแผนเฝ้าระวังสายทางที่อาจเกิดผลกระทบในอนาคตด้วยเช่นกัน และพร้อมให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนตามการร้องขออย่างเต็มที่เต็มกำลัง ด้วยอุปกรณ์ทรัพยากรและบุคลากรที่มีอยู่