ประกาศกรมอุตุฯฉบับ 4 พายุจ่ามี ไทยฝนตกหนักบางแห่ง 26-28 ต.ค.67

25 ต.ค. 2567 | 05:48 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ต.ค. 2567 | 06:40 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 4 พายุโซนร้อนจ่ามี กระทบไทยฝนเพิ่มกับฝนตกหนักบางแห่ง 26-28 ต.ค.67 เช็คพิกัดพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมอัปเดตสถานการณ์พายุ 2 ลูก

วันที่ 25 ต.ค. 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 4 เรื่อง พายุ “จ่ามี” เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “จ่ามี” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 800 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะไหหลำประเทศจีน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 118.1 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 92 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก อย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 26–28 ต.ค. 67 โดยพายุนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่จะทำให้มีลมฝ่ายตะวันตก ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุมีกำลังแรงขึ้น  ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก กับมีลมแรงในช่วงวันดังกล่าว 

 

หลังจากนั้นพายุจะเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัวออกห่างจากชายฝั่งประเทศเวียดนามกลับไปทางทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 26–29 ต.ค. 67 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง 

 

"ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย"

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้

วันที่ 26 ตุลาคม 2567 

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:จังหวัดเลย ชัยภูมิ และนครราชสีมา
  • ภาคใต้:จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล  

วันที่ 27 ตุลาคม 2567 

  • ภาคเหนือ:จังหวัดอุตรดิษถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:จังหวัดนครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา ศรีษะเกษ และอุบลราชธานี
  • ภาคกลาง:จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
  • ภาคตะวันออก:จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้:จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล     

วันที่ 28–29 ตุลาคม 2567 

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:จังหวัดมุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
  • ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
  • ภาคตะวันออก:จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้:จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล 


สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย


จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 17.00 น.

อนึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา ได้อัปเดตสถานการณ์พายุ 2 ลูกในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและในทะเลจีนใต้ โดยพายุโซนร้อนก่อตัว 2 ลูก ลูกแรก พายุโซนร้อน "จ่ามี (TRAMI)" ค่ำนี้มีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน(ทางด้านตะวันตกประเทศฟิลิปปินส์) กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก เข้าใกล้ทางตอนใต้เกาะไหหลำ และชายฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 26 -28 ต.ค.67  ก่อนที่จะวกกลับไปในทะเลจีนใต้ตอนบนอีกครั้ง (ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย) 

 

พายุนี้จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับประเทศไทย แต่อาจจะมีผลกระทบทางอ้อม โดยทำให้ประเทศไทย มีเมฆเพิ่มขึ้น และมีฝนบางพื้นที่ กับมีลมแรง เป็นลมตะวันตกที่พัดเข้าหาพายุมีกำลังแรงขึ้น โดยเฉพาะทางตะวันออกของภาคอีสาน จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร ยโสธร นครพนม สกลนคร เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวจะมีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมอยู่ด้านหน้าของพายุ  

 

ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม. ปริมณฑล จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นในวันที่ 27 ต.ค.67 ยังต้องเฝ้าระวัง ส่วนพายุอีกลูก คือพายุโซนร้อน "กองเร็ย (KONG-REY)" ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก พายุนี้ยังอยู่ห่างจากประเทศไทยมาก แต่ยังต้องติดตามเนื่องจากทิศทางยังมีการเปลี่ยนแปลง 

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้อัปเดตสถานการณ์พายุ 2 ลูก