เปิดไฮไลท์เรือพระที่นั่ง 4 ลำ พระราชพิธี “ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567”

27 ต.ค. 2567 | 03:56 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ต.ค. 2567 | 04:30 น.

เปิดไฮไลท์เรือพระที่นั่ง 4 ลำ ขบวนเรือพระราชพิธี “ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567” จากทั้งหมด 52 ลำ ในพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 ความอลังการบนโค้งน้ำเจ้าพระยา

วันนี้ (วันที่ 27 ตุลาคม 2567)  รัฐบาลเชิญชวนประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จในหลวง และพระราชินี ทรงเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และชมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 15.30 น.เป็นต้นไป

ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567 ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

 

โดยพระราชพิธี “ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และพระราชพิธีในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 สำหรับพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเป็นเรือพระราชพิธี หนึ่งเดียวในโลก ซึ่งเป็นภาคภูมิใจในความเป็นไทย เรือพระราชพิธีในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ทั้ง 52 ลำ

เรือพระราชพิธีขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567

ประกอบไปด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ และเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9

เปิดไฮไลท์เรือพระที่นั่ง 4 ลำ พระราชพิธี “ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567”

ริ้วขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค

รวมถึงเรือรูปสัตว์ 8 ลำ อาทิ อสุรวายุภักษ์-อสุรปักษี, เรือคู่ชัก 2 ลำ, เรือพิฆาต 2 ลำ, เรือประตูหน้า 2 ลำ, เรือกลอง 2 ลำ, เรือแซง 7 ลำ, เรือตำรวจ 3 ลำ และเรือดั้ง 22 ลำ

เรือไฮไลท์ในขบวนเรือพระราชพิธี คือ เรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์

เปิดไฮไลท์เรือพระที่นั่ง 4 ลำ พระราชพิธี ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567

 

  • เรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์

เป็นเรือพระที่นั่งกิ่ง หรือ เรือพระที่นั่งชั้นสูงสุด ซึ่งเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ และพระบรมราชินี แกะสลักโขนเรือเป็นรูปหงส์ เป็นลำทรงของพระมหากษัตริย์ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เดิมชื่อเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ทราบได้จาก บทเห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์หรือเจ้าฟ้ากุ้ง ที่ส่งประพันธ์ไว้ว่า “สุพรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม”

เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์

สำหรับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลำปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 แล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อพุทธศักราช 2454 โขนหัวเรือเป็นรูปหงส์ ลงรักปิดทองประดับกระจกมีพู่จามรีห้อย ปลายพู่เป็นแก้วผลึก ภายนอกทาสีดำ ท้องเรือภายในทาสีแดง ตอนกลางลำเรือทอดบัลลังก์กัญญาหรือบุษบกสำหรับเป็นที่ประทับ มีความยาว 46.15 เมตร  กว้าง 3.17 เมตร ลึก 0.94 เมตร ใช้ฝีพาย 50 คน

เปิดไฮไลท์เรือพระที่นั่ง 4 ลำ พระราชพิธี “ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567”

ทั้งนี้ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ยังได้รับรางวัลยกย่องให้เป็นเรือมรดกโลก จากองค์การเรือโลก (WORLD SHIP TRUST) แห่งสหราชอาณาจักร เมื่อปี 2535 อีกด้วย

  • เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช

 เป็นเรือพระที่นั่งกิ่ง เป็นเรือพระที่นั่งบัลลังก์ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค โดยปกติจะใช้เป็นเรือพระที่นั่งรอง หรือเรือเชิญผ้าพระกฐิน และประดิษฐานบุษบกสำหรับพระพุทธรูปสำคัญซึ่งมีโขนเรือเป็นรูปพญานาค 7 เศียร สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 3 ซึ่งทรงพระราชดำริว่าพระที่นั่งครุฑของเดิมก็มีอยู่แล้ว แต่พระที่นั่งนาคยังหามีไม่

เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช

จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ทำเรือพระที่นั่งนาคา 7 เศียรนี้ขึ้น ส่วนลำปัจจุบันสร้างขึ้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2475 โดยได้รับการซ่อมแซมอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2510 ท้องเรือภายในทาสีแดง ยาว 42.95 เมตร กว้าง 2.95 เมตร กินน้ำลึก 0.31 เมตร ใช้ฝีพาย 54 คน

  • เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์

ลำปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซ่อมแซมใหม่ในปี 2510 ชื่อเรือมาจากคำภาษาสันสกฤต ว่า อเนกะชาตะภุชงคะ แปลว่า งูหลากหลายชนิด ซึ่งสอดคล้องกับรูปโขนเรือที่ลงรักปิดทองมีลายรูปงูตัวเล็กๆจำนวนมาก คำว่า ภุชงคะ ในภาษาสันสกฤต มีความหมายเดียวกันกับคำว่า นาคะ หรือ นาค ในภาษาไทย

เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์

โดยนาคที่เป็นเทพหรือทิพยนาค เป็นตัวแทนแห่งพลังอำนาจ ความรอบรู้ และความอุดมสมบูรณ์ ลำเรือภายนอกทาสีชมพู ท้องเรือภายในทาสีแดง ยาว 45.50 เมตร กว้าง 3.15 เมตร กินน้ำลึก 0.46 เมตร ใช้ฝีพาย 61คน

  • เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ 

เป็นเรือสร้างน้อมเกล้าฯ ถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในพระราชพิธีกาญจนาภิเษก เมื่อปี 2539 โดยกองทัพเรือร่วมกับกรมศิลปากร ด้วยการนำโขนเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 และรัชกาลที่ 4 มาเป็นต้นแบบ

เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ

โดยโขนเรือและตัวเรือจำหลักลงรักปิดทองประดับกระจก ที่หัวเรือเบื้องใต้ครุฑเป็นช่องสำหรับปืนใหญ่ กลางลำเรือทอดบัลลังก์กัญญาและมีแท่นประทับ เรือมีความยาว 44.3 เมตร กว้าง 3.20 เมตร ลึกถึงท้องเรือ 1.10 เมตร กินน้ำลึก 40 เซนติเมตร มีฝีมือพาย 50 นาย

เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9

การจัดริ้วกระบวนได้แบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ ขบวนพยุหยาตราใหญ่ และขบวนพยุหยาตราน้อย ซึ่งเรือพระที่นั่ง จะแวดล้อมไปด้วยริ้วขบวนเรือของขุนนาง และทหารในกอง กรมต่างๆ ที่เรียกว่าเรือหลวง มีการจัดเรียงลำดับเรือต่างๆ ตามแบบแผนของการจัดทัพที่มีมาแต่โบราณ แบ่งออกเป็น 5 ริ้วขบวน

เปิดไฮไลท์เรือพระที่นั่ง 4 ลำ พระราชพิธี “ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567” เปิดไฮไลท์เรือพระที่นั่ง 4 ลำ พระราชพิธี “ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567” เปิดไฮไลท์เรือพระที่นั่ง 4 ลำ พระราชพิธี “ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567”

การจัดรูปขบวนเรือพระราชพิธี จํานวน 52 ลํา แบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3  สาย ดังนี้

  • ริ้วสายกลาง ซึ่งเป็นเรือสายสำคัญประกอบด้วยเรือพระที่นั่ง 4 ลำ มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้มีเรืออีเหลืองเป็นเรือกลองนอก เรือแตงโมซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือเป็นเรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจ รวมทั้งสิ้น 10 ลำ
  • ริ้วสายใน ขนาบข้างสายเรือพระที่นั่งมีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่นเป็นเรือประตูหน้าเรือเสือทยานชล และเรือเสือคำรณสินธุ์เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายริ้วสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาวและเรือเอกไชยหลาวทองซึ่งเป็นเรือคู่ชัก รวมทั้งสิ้น 14 ลำ
  •  ริ้วสายนอก ประกอบด้วยเรือดั้งและเรือแซง สายละ 14 ลำ รวมทั้งสิ้น 28  ลำ

สวยงาม โอ่อ่าตระการตา และความมีระเบียบสมกับเป็นประเพณีอารยธรรมอันสูงส่งของชาติไทยแต่โบราณ