“4 กปปส.”เฮ! ศาลยกฟ้องคดีกบฏ

25 ก.ค. 2562 | 05:14 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2562 | 12:26 น.

4 กปปส.เฮ! ศาลยกฟ้อง “สนธิญาณ-สกลธี-สมบัติ-เสรี” คดีกบฏ ชี้ร่วมชุมนุมแต่ไม่ใช่แกนนำสั่งการ
         
เช้าวันนี้ (25 ก.ค.) ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี กบฏ กปปส.สำนวนแรก คดีหมายเลขดำ อ.1191/2557 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 57 ปี แกนนำ กปปส., นายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 42 ปี อดีต ส.ส.กทม.และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม., นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อายุ 68 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมืองฯ และ นายเสรี วงษ์มณฑา อายุ 70 ปี นักวิชาการด้านการตลาด รวมทั้งหมด 4 คน ในความผิดฐานร่วมกันก่อการกบฏ-มั่วสุมสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ รวม 8 ข้อหา กรณีเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2556 ร่วมชุมนุม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. เพื่อกดดันให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ลาออก       

“4 กปปส.”เฮ! ศาลยกฟ้องคดีกบฏ

จำเลยทั้ง 4 คน ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ, นายถาวร เสนเนียม, นายสาธิต วงศ์หนองเตย และ แกนนำ กปปส.คนอื่นๆ เดินทางมาด้วย ทั้งนี้พบว่ามีประชาชนจำนวนกว่า 20 คน มายืนให้กำลังใจด้วยเช่นกัน
 

นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นฟังคำพิพากษาว่า วันนี้ศาลนัดอ่านคำพิพากษา ซึ่งพวกเราถูกฟ้องเนื่องจากการชุมนุมต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมและรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2556-2557 จำเลยชุดแรกมีจำนวน 4 คน คือ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, นายสกลธี ภัททิยกุล , นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และ นายเสรี วงษ์มณฑา ซึ่งอัยการยื่นฟ้องคดีก่อน ก็แยกเป็นคนละสำนวนคดีกับที่ฟ้องพวกตนอีก 30 กว่าคน และคดีนี้ได้ต่อสู้คดีกันมานานกว่า 4 ปีแล้ว ในฐานะผู้ร่วมอุดมการณ์ จึงเดินทางมาเป็นกำลังใจให้แกนนำทั้ง 4 คน  
 

ล่าสุด ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้อง จำเลยทั้ง 4 คน โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่แล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานที่อัยการโจทก์นำสืบมารับฟังได้เพียงว่าจำเลยทั้ง 4 รายได้เข้าร่วมชุมนุม กับกปปส. แต่ไม่ได้เป็นแกนนำที่สั่งการผู้ชุมนุมหรือขึ้นปราศรัยสั่งการให้กระทำการรุนแรง  
    

นอกจากนี้ การชุมนุมของ กปปส.ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยไว้แล้วในคำวินิจฉัยที่ 59/2556 ว่าการชุมนุมของกปปส. สืบเนื่องมาจากการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 63 ซึ่งสืบเนื่องจากเหตุที่คัดค้านการออกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมและไม่พอใจการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาจึงยังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยทั้งสี่ได้กระทำความผิดตามฟ้องทั้ง 8 ข้อหา จึงพิพากษายกฟ้อง
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนคดีชุมนุม กปปส. ชุดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. และประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) กับอดีตแกนนำ กปปส. และแนวร่วม รวมทั้งสิ้น 32 คน ที่รวมพิจารณา 5 สำนวน ในคดีหมายเลขดำ อ.247/2561 , อ.832/2561, อ.1185/2561, อ.491/2562 , อ.791/2562 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้อง 8 ข้อหาเช่นเดียวกัน 

โดย นายสุเทพ กับ นายชุมพล จุลใส ถูกฟ้องเพิ่มอีกข้อหาฐานก่อการร้าย ตามมาตรา 135/1 นั้น ซึ่งจำเลยทั้งหมดได้รับการประกันตัวคนละ 600,000 บาท พร้อมมีเงื่อนไขห้ามออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล โดยคดีแกนนำ กปปส.ชุดนี้ อยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์โดยเริ่มนัดแรกเมื่อวันที่ 14 พ.ค.62 ที่ผ่านมา ซึ่งศาลให้สืบพยานต่อเนื่องทุกสัปดาห์

ขณะที่การดำเนินคดีชุมนุม กลุ่ม กปปส.นั้น ยังเหลือผู้ต้องหาที่รอส่งตัวฟ้องอีก 10 กว่าคน อาทิ นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำ พธม. , นายนิติธร ล้ำเหลือ,น.ส.จิตภัสร์ กฤดากรหรือ ตั๊น ปัจจุบันเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์