กทพ.เฮ ไม่ต้องจ่ายกว่า 300 ล้านให้บีอีเอ็ม ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ ที่สั่งการทางพิเศษฯ ต้องจ่ายค่าเปลี่ยนแปลงแบบก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 2 เหตุเป็นคำชี้ขาดไม่ชอบ คดีพ้นอายุความ
วันที่ (19 ก.ย.) ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.56 ที่สั่งให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชำระเงินค่าก่อสร้างและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินการก่อสร้างโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ในส่วนงานที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม 3 จุด ได้แก่ จุดเชื่อมต่อถนนงามวงศ์วาน จุดเชื่อมต่อถนนแจ้งวัฒนะ และจุดเชื่อมต่อถนนพระราม 9 แก่ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (บีอีเอ็ม) เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 382,546,492 บาท และชำระดอกเบี้ยในต้นเงินจำนวน 209,181,159บาท ในอัตราตามสัญญาโครงการก่อสร้างระบบทางด้วนขั้นที่ 2 ระหว่าง กทพ.กับ บมจ.บีอีเอ็ม นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2552 เป็นต้นไปจนกว่า กทพ.จะชำระเงินต้นและดอกเบี้ยแก่ บมจ.บีอีเอ็มจนเสร็จสิ้น ตามคำร้องของ กทพ. ที่ได้ยื่นร้องขอให้ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดดังกล่าว เนื่องจาก กทพ.เห็นว่า คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเป็นคำวินิจฉัยที่คาดเคลื่อนต่อข้อตกลงสัญญา ระหว่าง กทพ.และบมจ.บีอีเอ็ม
ทั้งนี้ ศาลปกครองให้เหตุผลในการพิพากษาเพิกถอนว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้ รับฟังได้ว่า บมจ.บีอีเอ็ม ยื่นเสนอข้อพิพาทกรณีเงินค่าก่อสร้างและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินการก่อสร้างโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ในส่วนงานที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม3 จุด ได้แก่ จุดเชื่อมต่อถนนงามวงศ์วาน จุดเชื่อมต่อถนนแจ้งวัฒนะ และจุดเชื่อมต่อถนนพระราม9 ต่อคณะอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2552 เป็นการยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุการพ้นกำหนดระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ บมจ.บีอีเอ็ม รู้ถึงเหตุข้อพิพาทกับ กทพ. เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2543
ดังนั้นการที่ อนุญาโตตุลาการรับข้อพิพาทดังกล่าวเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด คำวินิจฉัยชี้ขาดดังกล่าวจึงเป็นคำชี้ขาดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน พิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ