"มาดามเดียร์ -ลูกบุญทรง"ร่วมประชุมสภาลมหายใจเชียงใหม่ เพื่อดิน น้ำ ป่า อากาศยั่งยืน ลดฝุ่นควัน นำร่อง 25 อำเภอ เผย"พปชร."พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ ย้ำแก้ปัญหาปากท้อง ประชาชนสำคัญกว่าแก้รธน.
วันที่ 30 ก.ย.2562 ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ร่วมประชุมกับสภาลมหายใจเชียงใหม่ เพื่อดิน น้ำป่าอากาศยั่งยืน ซึ่งเป็นการพัฒนาความร่วมมือและการสนับสนุนสภาลมหายใจเชียงใหม่ เพื่อการขับเคลื่อนพื้นที่ปฏิบัติการ 30 ตำบลนำร่อง ใน 25 อำเภอ จัดการชุมชน ดิน น้ำ ป่า อากาศ ยั่งยืน เพื่อลดฝุ่นควันให้อากาศสะอาด โดยการสนับสนุนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
น.ส.วทันยา กล่าวว่า มาร่วมรับฟังปัญหาของสภาลมหายใจเชียงใหม่ ที่ประกอบไปด้วยทุกภาคส่วน เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ ชาวบ้านบนดอย และพื้นราบ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐทภาคประชาสังคม โดยชาวบ้านก็จะสะท้อนปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตัวเองว่ามาจากอะไร สาเหตุหลักมาจากชาวบ้านไม่มีอาชีพ จึงเข้าไปเผาป่า หรือ หาของป่า รวมถึงเผาซังข้าว และซังข้าวโพด ดังนั้นวิธีที่จะแก้ปัญหาได้ดีที่สุด คือการสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน เน้นความเข้มแข็งของชุมชน เช่น วิสาหกิจชุมชน ซึ่งรัฐบาลมีโครงการประชารัฐสร้างไทย ที่กำลังเดินหน้า สำหรับแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก ถูกต้องและตรงจุดที่สุด โดย ธกส.มีแผนการให้สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษในการพัฒนาวิสาหกิจชุมชน และ ปลูกป่าสร้างรายได้ เป็นต้น เมื่อชาวบ้านมีสินค้าแล้ว ก็ต้องหาตลาดให้ ซึ่งตอนนี้ ธนาคารออมสิน มีตลาดประชารัฐ ขณะที่ ปตท.ก็ให้พื้นที่ภายในปั้มไปขายสินค้าได้ และกำลังขยายเพิ่มไปปั้มบางจาก
ขณะเดียวกันส่วนตัว ยังมองเรื่องการนำเทคโนโลยีมาต่อ ยอดเพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่นนำเข้าสู่แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ช สร้างการเชื่อมโยงผู้ประกอบการกับชาวบ้าน เกษตรกรโดยไม่ผ่านคนกลาง ซึ่งเหล่านี้สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องรอภาครัฐ
น.ส.วทันยา ยังให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นว่า พรรคพลังประชารัฐให้ความสนใจในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นทั้ง 77 จังหวัด และมีเป้าหมายที่อยากประสบความสำเร็จทุกจังหวัด ไม่ได้เน้นหรือให้ความสำคัญกับจังหวัดใดเป็นพิเศษ เห็นได้จากการเลือกตั้งระดับประเทศเมื่อ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา พรรคก็ให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ เพราะทุกคะแนนจากพี่น้องประชาชนมีความหมาย
ส่วนพื้นที่ จ.เชียงใหม่นั้น คงไม่ใช่แค่พรรคพลังประชารัฐ ที่อยากได้ที่นั่งในสนามท้องถิ่น แต่คงเป็นทุกพรรคการเมือง ที่จะส่งผู้สมัครลงแข่งขัน ทั้งนี้ยืนยันว่า พรรคมีความพร้อมในส่วนของตัวผู้สมัครและมั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจ เพราะการเลือกตั้งใหญ่ พรรคก็ได้คะแนนป็อปปูล่าร์โหวตเป็นอันดับ 1 จึงเชื่อมั่นใจในฐานคะแนนเสียง สำหรับการวางตัวบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคจะพิจารณา เพราะต้องยอมรับว่า การทำงานของท้องถิ่นมีส่วนสำคัญที่จะต้องประสานและเชื่อมโยงกับการทำงานของรัฐบาลโดยภาพรวม เพื่อให้สอดคล้องกัน
น.ส.วทันยา ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านรณรงค์ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ว่า พรรคเรายินดีรับฟังความคิดเห็นของทุกพรรค แต่ส่วนตัว คิดว่า เวลานี้สิ่งสำคัญคือการแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชน ผลักดันนโยบายที่ได้หาเสียงให้สำเร็จเป็นรูปธรรม น่าจะเป็นเรื่องแรกที่ควรทำมากกว่าแก้รัฐธรรมนูญ