ตำรวจผนึกหน่วยงานความมั่นคง เฝ้าระวังช่องทางธรรมชาติ หวั่น 2 ผู้ต้องหาคดีแม่มณี ใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ส่วนการหารือโอนคดีให้ดีเอสไอหรือไม่ รอถกรายละเอียด ช่วงบ่ายวันนี้
วันที่ 1 พ.ย.256 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีคดีมีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินดคดีกับน.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือแม่มณี หลอกเหยื่อร่วมลงทุนออมเงินจำนวนหลายล้านบาท ว่า คดีที่เกิดขึ้น ได้รับรายงานจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(ปอศ. ) เป็นเคสที่มีการระดมทุนตั้งแต่ปี 2558 โดยอาศัยความน่าเชื่อถือของตนเอง ระบบธุรกิจ และให้ผลตอบแทนได้ในช่วงต้น กระทั้งเริ่มเกิดปัญหาขึ้น โดยได้รับแจ้งจากผู้เสียหายกว่า 100 คน เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม ที่ผ่านมามีมูลค่าความเสียหายหลักร้อยล้านบาท
ส่วนการดำเนินคดีของปอศ.นั้นไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สอบสวนผู้เสียหายกว่า 140 ราย ได้รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาคือ น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือแม่มณี และนายเมธี ชิณภา ในฐานความผิด 3 ข้อหา ประกอบไปด้วย ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
พ.ต.อ.เอกกฤษณะ กล่าวต่อว่า คดีที่เกิดขึ้นนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับประสานจากกระทรวงยุติธรรมว่าจะนำคณะผู้บริหารมาพูดคุยหารือกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในประเด็นกรอบการทำงานในคดี ช่วงบ่ายนี้ ซึ่งจะมีการโอนคดีแชร์แม่มณีไปอยู่ภายใต้การรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด ทั้งนี้ทราบว่ากระทรวงยุติธรรมจะเข้ามาหารือกรอบการทำงานร่วมกัน ส่วนการรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่เป็นการดำเนินการของกระทรวงยุติธรรม ส่วนรายละเอียดในการพูดคุยวันนี้ ต้องดูในรายละเอียดการหารือให้มีความชัดเจนก่อน ผู้เสียหายที่ได้แจ้งความกับตำรวจแล้วได้ดำเนินคดีตามปกติ ด้านการช่วยเหลือผู้เสียหายนั้นได้มีการประสานงานกันมาโดยตลอด โดยยึดความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก เท่าที่ทราบจะมีการมาหารือในวันนี้ แต่การหารือยังไม่เกิดขึ้น หากมีการหารือเรื่องโอนคกีก็ต้องดูในกรอบกฎหมายว่าจะโอนทั้งคดีหรือบางส่วนก็จะต้องดูกรอบกฎหมายให้ชัดเจน
พ.ต.อ.เอกกฤษณะ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ขณะนี้ผู้ต้องหายังหลบหนีอยู่นั้นยังไม่ทราบว่าอยู่พื้นที่ใด แต่ยืนยันว่าตำรวจจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเร่งติดตามตัวผู้ต้องหา หลังศาลออกหมายจับได้ออกประกาศสืบจับตามขั้นตอน และ ประสานไปยัง สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน ทหาร กรมการปกครอง ให้เฝ้าระวังการหลบหนีออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ