“ชัยวัฒน์” ปัดให้ความเห็น DSI ยื่นขอถอนประกัน

     วันที่ 18 พ.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) พบว่านายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ถึงแม้ทางด้าน DSI ยื่นขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนประกันนายชัยวัฒน์ เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในชั้นพนักงานสอบสวน แต่กลับไปให้ข่าวและข้อมูลกับสื่อมวลชนแทน ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายการเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และทำให้เป็นอุปสรรคในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่

     ส่วนเรื่องคำสั่งย้ายด่วน จากกรมจากกรมอุทยานฯ มาอยู่ที่สำนักงานปลัด ทส. ในตำแหน่งข้าราชการระดับ 9 นั้นตนเองก็เพิ่งทราบจากข่าว ยังไม่ทราบไม่เห็นคำสั่งแต่อย่างใด ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดตนไม่ขอให้ความเห็นหรือสัมภาษณ์แต่อย่างใด

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว (การประกันตัว) หรือกำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขัง ของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ 1 ในคดีการหายตัวไปของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ เมื่อปี 2557 ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาร่วมพวกรวม 4 คน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และกักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิต รวม 6 ข้อหา

    โดยดีเอสไอเกรงนายชัยวัฒน์อาจไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ซึ่งดีเอสไอได้รวบรวมคำให้สัมภาษณ์ต่างๆ ของนายชัยวัฒน์หลังจากปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อค่ำวันที่ 12 พ.ย.แล้วเห็นว่าอาจจะเข้าข่ายยุ่งเหยิงพยานหลักฐานและทำให้สังคมเข้าใจสำนวนคดีผิด เช่น กล่าวหาว่าดีเอสไอ สร้างเรื่องขึ้นมา หรือจัดฉากการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกลุ่มกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จึงได้ยื่นคำร้องพร้อมคำถอดเทปสัมภาษณ์นายชัยวัฒน์ เสนอต่อศาล 

    ทั้งนี้ คำร้องระบุว่า ขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว นายชัยวัฒน์ หรือขอให้ศาลกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ห้ามให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับคดี หรือให้ข้อมูลกับประชาชนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแก่ประชาชนเกี่ยวกับคดีนี้ และห้ามมิให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบวัตถุพยานสำคัญ และมีพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องอาศัยอยู่ เนื่องจากสร้างความหวาดกลัวให้กับพยานไม่กล้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน หรือให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ใช้อุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ (กำไลข้อเท้า EM) เพื่อตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทาง และเพื่อป้องกันการหลบหนี โดยศาลรับคำร้องไว้พิจารณาและนัดพร้อมเพื่อสอบถามในวันที่ 25 พ.ย.นี้ เวลา 13.30 น. นี้ ซึ่งตรงกับวันที่ศาลนัดให้ นายชัยวัฒน์ และผู้ต้องหาร่วม รวม 4 คน มารายงานตัวหลังจากครบกำหนดฝากขังครั้งแรก โดยศาลให้ออกหมายแจ้งนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 1 ทราบนัดด้วย