ฉายารัฐบาล “รัฐเชียงกง” “บิ๊กตู่” อิเหนาเมาหมัด

23 ธ.ค. 2562 | 03:51 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ธ.ค. 2562 | 11:01 น.

สื่อทำเนียบฯตั้งฉายารัฐบาลปี 63 “รัฐเชียงกง” ส่วน'บิ๊กตู่ “ อิเหนาเมาหมัด “บิ๊กป้อม” พี่ใหญ่สายเอ็นฯ” ประโยคเด็ด “ อย่าเพิ่งเบื่อผมก็แล้วกัน ยังไงผมก็อยู่อีกนานพอสมควร”เป็นวาทะแห่งปี

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

การตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี ของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติสืบต่อกันมา เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานรัฐบาล จากประสบการณ์การทำงานที่ปรากฎต่อสื่อสาธารณะ โดยมิได้มีอคติ  หรือ เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ใดผู้หนึ่ง ทั้งหมดเกิดจากมติส่วนรวมของสื่อมวลชน  
   

   แต่ด้วยประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่เอื้ออำนวย และ มีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงทำให้ว่างเว้นไม่ได้ตั้งฉายามา 6 ปี ดังนั้นในปีนี้ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ได้ประชุมและมีมติตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และ วาทะแห่งปี ประจำปี 2562 ดังนี้

   

ฉายารัฐบาล : รัฐเชียงกง 

    รัฐเชียงกง สะท้อนภาพรัฐบาลคล้ายแหล่งค้าขายอะไหล่มือสอง ประกอบกันขึ้นจาก ข้าราชการยุคก่อน และ นักการเมืองหน้าเก่า แม้ใช้ประโยชน์ได้ แต่ยังขาดความน่าเชื่อถือ สะท้อนความไม่มีเสถียรภาพ

   

ฉายาพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม : อิเหนาเมาหมัด

     ยกคำสุภาษิตไทย ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เปรียบแนวทางปฎิบัติ และ นโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่เห็นได้ชัดหลายเรื่อง มักจะตำหนิหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และ สุดท้ายก็กลับมาทำเอง เช่น โครงการลักษณะประชานิยม ,บอกไม่เป็นนายกฯ สุดท้ายก็กลับมา, ไม่อยากเล่นการเมือง ก็หนีไม่พ้น, หนีการตอบกระทู้ในสภา , มองข้ามข้อครหาเรื่องงูเห่าการเมือง การซื้อตัว ส.ส. , ตั้งคนมีคดีความที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองเป็นรัฐมนตรี , แต่งตั้งญาติพี่น้องเข้าสภา


 

ยอมให้พรรคที่สนับสนุนใช้นโยบายค่าแรงหาเสียง ทั้งที่เคยตำหนิว่า การขึ้นค่าแรงเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน อีกทั้งไม่สามารถควบคุมให้รัฐบาลมีความเป็นเอกภาพ เกิดปัญหาติดขัดการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงงบประมาณที่ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ และ ฝ่ายตรงข้ามรุมเร้าคล้ายโดนระดมหมัดเข้าถาโถม แม้พยายามสวนหมัดสู้ แต่หลายครั้งถึงกับมึนชกโดนตนเองก็มี

   

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ

 

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี : พี่ใหญ่สายเอ็นฯ

   ในฐานะพี่ใหญ่ของ สาม ป. นอกจากจะต้องคอยดูแลน้องรักแล้ว ยังต้องเอ็นเตอร์เทนพรรคร่วมรัฐบาล และ ต้องเอ็นดูคนในพรรคพลังประชารัฐที่ได้รับมอบหน้าที่ประธานยุทธศาสตร์ทุกด้าน ตั้งแต่คดีระหว่างประเทศยันฟาร์มไก่ ทำให้งานด้านความมั่นคงที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล เหลือเพียงเดินสายเปิดงานอีเวนต์ ประชุมทั่วไปเท่านั้น 

 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี : ชายน้อยประชารัฐ

เจ้าของโปรโจคโครงการประชารัฐ ที่หวังเดินหน้าต่อยอดในรัฐบาลนี้ กลับทำไม่ได้อย่างที่หวัง ถูกริบอำนาจงานด้านเศรษฐกิจหลายกระทรวง คล้ายคนง่อยเปลี้ยเสียขา ขาดมือไม้ในการทำงาน ทำให้เดินหน้าโครงการไม่ได้ 100% ถึงกับออกปากว่า ตอนนี้เหมือนคนที่เหลือเพียงขาเดียวเท่านั้น สุดท้ายเหมือนตัวคนเดียว พรรคร่วมก็ไม่เอาด้วย

 

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี : ศรีธนญชัยรอดช่อง

ความเป็นกูรูด้านกฎหมายของรัฐบาล สามารถช่วยรัฐบาลรอดพ้นปากเหวได้ทุกครั้ง เปิดทางตันด้วยช่องว่างทางกฎหมายที่แม้แต่แว่นขยายก็ยังมองไม่เห็น


 

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ : รัฐอิสระ

เมื่อฝ่ายค้านมีฝ่ายค้านอิสระ รัฐบาลนี้ก็มีฝ่ายรัฐบาลอิสระเช่นกัน ให้ความสำคัญและเดินหน้าเฉพาะนโยบายของพรรคตนเองเป็นหลัก ไม่สนใจภาพรวมของรัฐบาล ไม่สามารถควบคุม ส.ส. ของพรรคได้ สร้างความหวาดระแวงภายในรัฐบาลตลอดเวลา ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐ 

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข : สารหนู

แม้มีชื่อเล่นว่า หนู  แต่ก็ไม่หนูอย่างที่คิด พิษสงรอบตัว ด้วยจำนวน สส. ในมือ มีผลต่อความเป็นไปของรัฐบาล จนสามารถต่อรองคุมกระทรวงใหญ่ไว้ในมือได้ อีกทั้งนโยบายแบนสามสารพิษ ก็โดดเด่นและถูกจับตามอง ถึงกับเป็นชนวนความขัดแย้งเกิดขึ้นในรัฐบาล ก่อนจะสยบรอยร้าวได้ในที่สุด 


ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ : เทามนัส

แม้คดีความต่างๆ จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่การถูกขุดคุ้ยล่าสุดทั้งเรื่องคดียาเสพติดในต่างประเทศ และ วุฒิการศึกษา 
ยังทำให้คนกังขา ไม่เชื่อมั่นในความโปร่งใส รวมถึงการทำหน้าที่มือประสานสิบทิศทางการเมือง ก็ยังถูกครหาเรื่องการซื้อตัว สส. พรรคเล็ก และ ดีลการเมืองกับฝ่ายค้านอีกด้วย

 

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ : มาดามแบนเก้อ

ด้วยบุคลิกเฉิดฉาย เด็ดเดี่ยว และ โดดเด่น เดินหน้าแบนสามสารพิษ อย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม แม้ต้องชนกับเจ้ากระทรวงของตัวเองก็ไม่หวาดหวั่น เดินหน้าตามธงที่ถือไว้ แต่จนแล้วจนรอด การแบนสามสารก็ยังไม่สามารถปฎิบัติได้จริง 

 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม : โอ๋  แซ่รื้อ

ตั้งแต่เข้ามากำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ผุดไอเดียบรรเจิดจนคนต่อต้าน เช่น ติดตั้ง GPS ในรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่พอ ยังเดินหน้ารื้อหลายโครงการที่เป็นปัญหา เช่น  รื้อมาตรการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า รื้อคดีค่าโง่ทางด่วน รื้อหลักสูตรสอบใบขับชี่ รื้อแผนท่าเรือปากบารา-สงขลา2 รื้อแผนฟื้นฟู ขส.มก. แม้แต่ไม้กั้นรถไฟยังถูกรื้อ

 

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : สัปเหร่อออนท็อป

นับแต่เข้ารับตำแหน่ง ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันซ้ำไปซ้ำมา กับบรรดาสิงสาราสัตว์ที่มีชื่อเสียง ทั้ง พะยูนมาเรียม  แพนด้าช่วงช่วง เสือของกลาง ช้างป่าเขาใหญ่ เป็นความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็สามารถแสดงศักยภาพรับมือเหตุต่างๆ ได้ดี คล้ายทำหน้าที่สัปเหร่อเก็บกวาดทุกเรื่อง รวมไปถึงคดีความร้อนๆ ของคน และ พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

 

สำหรับ  วาทะแห่งปี

“ อย่าเพิ่งเบื่อผมก็แล้วกัน ยังไงผมก็อยู่อีกนานพอสมควร”