จากมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก่อนหน้านี้กรณี ปมนาฬิกาหรู ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ระบุว่า ยืมมาจากเพื่อน ยังคงตกเป็นเป้าโจมตีและวิพากวิจารณ์ถึงเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง วันนี้ (3 มิ.ย.63) นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณากรณีที่มีผู้ขอให้พิจารณาชี้มูลความผิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฐานไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินในมูลค่านาฬิกาหรูที่ยืมเพื่อนมา โดยให้เหตุผลว่าเป็นการ “ยืมใช้คงรูป” และคืนเจ้าของแล้ว จึงไม่มีหน้าที่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินนั้น ตนเห็นว่า มติ ป.ป.ช.เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น น่าจะขัดต่อตรรกะ และหลักวิชากฎหมาย โดยสิ้นเชิง เป็นที่น่าอับอายต่อนักกฎหมายทั่วประเทศ
"อยากถามว่า ป.ป.ช.มีเหตุผลที่น่าฟังกว่านี้หรือไม่ มีพยานหลักฐานในรายละเอียดของนาฬิกา พฤติการณ์ของการยืมและการคืนนาฬิกาหรือไม่ และการให้ยืมต้องถือว่า พล.อ ประวิตร ได้ประโยชน์ในลักษณะที่อาจคำนวณเป็นเงินได้ตามกฎหมาย ป.ป.ช. หากตีความตามตรรกะนี้ บรรทัดฐานของ คดี ป.ป.ช จะถูกนำมาใช้อ้างในกรณีต่อๆไป จึงไม่แน่ใจว่าตรรกะนี้ใช้เฉพาะคดีนี้หรือไม่ เพราะสังคมทั่วไปทราบว่าประธานป.ป.ช.เป็นบุคคลใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร "
นายชุมสาย ยังกล่าวด้วยว่า ตนสงสัยว่าข้อเท็จจริงที่ ป.ป.ช.รับฟังว่านาฬิกายืมเพื่อนมาน่าจะเป็นการหาทางออกเพื่อช่วยผู้ถูกกล่าวหาให้พ้นผิดเท่านั้น ซึ่งต้องไม่ลืมว่า ถ้า ป.ป.ช.ทำผิดก็ติดคุกได้เหมือนกัน
“คนระดับนี้ยืมนาฬิกาเพื่อนใส่ มีใครในสังคมนี้เชื่อบ้าง และการมีคำวินิจฉัยออกมาช่วงนี้ เป็นเพราะต้องการพ้นข้อครหาก่อนขึ้นกุมอำนาจพรรค พปชร.หรือไม่”
นายชุมสาย ชี้ว่า ที่ผ่านมา ป.ป.ช.มีประเด็นข้อครหาที่สังคมคลางแคลงใจในการ ปฏิบัติหน้าที่หลายกรณี เช่น มีการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ซึ่งทุกวันนี้คนในสังคมยังไม่สิ้นสงสัย จึงเห็นว่าหาก ป.ป.ช.ยังคงทำงานโดยมีมาตรฐานของคำวินิจฉัยเช่นนี้ ก็ไม่สมควรต้องมี ป.ป.ช. และควรยุบ ป.ป.ช.ทิ้งเสียซึ่งเรามีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.และศาลยุติธรรมซึ่งเป็นที่พึ่งได้ดีอยู่แล้ว