"ทราบข่าวตามที่นำเสนอจากสื่อมวลชน จากกรณีที่ คุณพ่อ (พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์) และพวก ถูกกล่าวหาว่า พยายามวางแผนแหกคุกเพื่อหลบหนี ส่วนตัวเชื่อว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะเหตุการณ์ที่นำเสนอผ่านสื่อเหมือนกับพล็อตเรื่องในภาพยนตร์"
นี่คือคำสัมภาษณ์เปิดใจตอนหนึ่งของ "เบล" หรือ นางสาวบุษญา ตั้งภากรณ์ ลูกสาว ของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ จำเลยในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ที่มีสื่อหลายสำนักเผยแพร่บทสัมภาษณ์นี้เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา
เบล ระบุถึง พ.ต.ท.บรรยิน ผู้เป็นพ่อด้วยว่า ทราบว่าใน ขณะที่คุณพ่ออยู่ในเรือนจำเป็นที่เพ่งเล็งของเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว เพราะคดีที่คุณพ่อถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับบุคลากรศาล ทั้งนี้ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงและกังวลใจมาก โดยเฉพาะเรื่องที่มีข่าวว่า คุณพ่อคิดสั้น โดยเมื่อต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ตัวเองได้เข้าไปเยี่ยม คุณพ่อ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้มีการพูดคุยกับคุณพ่อ เป็นครั้งแรกหลังจากที่กรมราชทัณฑ์ ประกาศงดเยี่ยมญาติ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
"ซึ่งยอมรับว่า คุณพ่อมีอาการเครียดและกดดัน หลังจากนั้นก็ทราบว่าคุณพ่อถูกย้ายไปคุมขังที่เรือนจำบางขวาง และห้ามญาติเข้าเยี่ยมโดยเด็ดขาด ส่วนเรื่องคดีความก็จะต้องต่อสู้ไปตามกระบวนการของกฎหมาย"
ซึ่งแผนแหกคุก จะเป็น "พล็อตเรื่องในภาพยนตร์" ดั่งที่ลูกสาว พ.ต.ท.บรรยิน เชื่อมั่น หรือ นี่คือเรื่องจริงตามรายงานข่าว จากแฟนเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า "Tempo Old journalists" ซึ่งคาดว่าจะเป็นแฟนเพจของสื่อมวลชนสายตำรวจกองปราบปราม ซึ่งนับว่าเป็นต้นทางที่มาของกระแสข่าวทั้งหมด ทั้งแผนแหกคุก และ การคิดค่าตัวตายของ พ.ต.ท.บรรยิน
Tempo Old journalists โพสต์ภาพและข้อความเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. เวลา 16.41 น. ระบุชื่อพาดหัวข่าวว่า "อหังการ์ พ.ต.ท.บรรยิน วางแผนแหกคุกกับแผนสุดเหลือเชื่อจะวางระเบิดข้างเรือนจำล้มสงธงชาติปีนหนีให้ฮอมารับ"
วันที่ 19 มิถุนายน รายงานจากกองปราบปรามว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนกองปราบปรามกำลังสืบสวนคดีคนร้ายวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหาร่วมกันกับพวกอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อยู่ในขณะนี้
สำหรับเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่ชุดสืบสวนกองปราบปราม ได้จับกุมตัวนายโจ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ ได้ที่ซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ หลังได้รับการประกันตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ แต่ยังคงมีหมายจับค้างเก่าติดตัวอีก 1 หมาย เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวก่อนจะนำมาสอบปากคำ
เบื้องต้นนายโจให้การรับสารภาพว่าที่ได้ประกันตัวออกมาเป็นเพราะ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ที่รู้จักกันในเรือนจำได้ให้ทนายความส่วนตัวติดต่อทนายความอีกคนให้มาประกันตัวออกจากเรือนจำ พร้อมทั้งยังให้การเพิ่มเติมอีกว่าสาเหตุที่พ.ต.ท.บรรยินช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นเพราะขณะที่รู้จักกันในเรือนจำ พ.ต.ท.บรรยิน มีคำสั่งให้ตนทำงานให้ 2 ข้อ
ข้อแรก ให้หาทางชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ออกจากคุก แต่ถ้าข้อแรกทำไม่สำเร็จให้ลักพาตัวภรรยาของผบ.เรือนจำมาให้ได้เพื่อไว้ใช้ในการต่อรองกับผบ.เรือนจำ เรื่องการหนีออกจากคุกพร้อมทั้งยังให้เบอร์โทรติดต่อไปหาส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ที่เคยเป็นลูกน้องของพ.ต.ท.บรรยินเพื่อร่วมกันวางแผน
ครั้งแรกตนได้โทรติดต่อไปหาส.ส.ที่ พ.ต.ท.บรรยิน ให้เบอร์มาแต่ฝ่ายนั้นไม่เอาด้วย เว้นระยะเวลาไป 2-3 วัน ได้โทรไปหาอีกครั้งเพื่อขอเงิน แต่ไม่ได้ ชุดสืบสวนกองปราบปรามจึงได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สน.หัวหมาก หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว ชุดสืบสวนกองปราบปราม ได้เข้าไปสืบสวนหาข่าวจากเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำ จนทราบว่านอกจากนายโจ ที่ถูก พ.ต.ท.บรรยิน สั่งทำงานแล้ว ยังมีนายท๊อป อายุ 30 ปี ผู้ต้องหากรรโชกทรัพย์ ชาวจังหวัดนครสวรรค์ บ้านเดียวกันกับพ.ต.ท.บรรยินอีกคน
โดยแหล่งข่าวภายในเรือนจำแจ้งว่า ระหว่างที่ทั้งคู่ถูกคมขังได้มีความสนิทกับ พ.ต.ท.บรรยิน เป็นอย่างมาก จากนั้นได้รับการปล่อยตัวออกมาจากการประกันตัวหลังทราบเรื่องชุดสืบสวนกองปราบปราม ได้ตรวจสอบหาเบาะแสจนสามารถจับกุมตัวนายท็อป ได้หลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนนำตัวมาสอบสวนอย่างละเอียด
โดยนายท็อปให้การรับสารภาพว่ารู้จักกับพ.ต.ท.บรรยินในเรือนจำจริง ส่วนเรื่องการประกันตัวออกมาเป็นญาติหาเงินมาประกันให้ นอกจากนี้ยังให้การว่า ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ พ.ต.ท.บรรยิน ได้สั่งให้หาทางช่วยเหลือออกจากคุกเช่นเดียวกับนายโจ
ทาง พ.ต.ท.บรรยิน ได้เล่ารายละเอียดในการวางแผน ว่าจะมีคนมาวางระเบิดข้างเรือนจำ จากนั้นจะล้มเสาธงชาติกลางลานสนามหญ้าเพื่อใช้ปีนหนี เมื่อออกมาได้จะมีเฮลิคอปเตอร์มารับตัวอีกที หลังจากสอบสวนเสร็จสิ้น จึงได้แจ้งข้อหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีที่ จ.นครสวรรค์
ทั้งนี้หลังจากมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะนี้ชุดสืบสวนกองปราบปรามได้ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษ กรุงเทพ เพื่อหาเบาะแสต่างๆอยู่ ตลอดเวลา เพื่อเป็นการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย
ต่อมา 20 มิ.ย. Tempo Old journalists ยืนยันรายงานข่าวของตัวเองอีกครั้งด้วยการโพสต์ภาพและข่าวระบุว่า "ยัน พ.ต.ท.บรรยิน วางแผนแหกคุกเรื่องจริง ส่งหนุมานประกบทุกครั้งที่ขึ้นศาล"
วันที่ 20 มิถุนายน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันว่ามีการจับกุมผู้ต้องหา ในคดีอื่นที่ให้การอ้างว่า พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ มีแผนแหกคุกตามที่เป็นข่าวจริง ขณะนี้ตำรวจกองปราบปรามอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่าคำให้การของนายโจ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและมีการประสานจากพ.ต.ท.บรรยินให้ช่วยเรื่องแหกคุกนั้นเป็นจริงมากน้อยเพียงใด หากพบว่าเป็นจริง ต้องนำมาพิจารณาข้อกฎหมายว่าจะเเจ้งข้อหาใดเพิ่มแก่ใครได้หรือไม่
ทั้งนี้ทางตำรวจกองปราบปรามเองก็มีมาตรการในการป้องกันและดูแลความปลอดภัยไม่ให้เกิดการหลบหนีอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว โดยรับว่าคดีสำคัญ เช่นส่งผู้ร้ายข้ามแดน หรืออย่างคดี พ.ต.ท.บรรยิน นี้ ก็มีการนำกำลังชุดปฏิบัตืการพิเศษ หนุมาน เข้าไปสนับสนุนกำลังตำรวจท้องที่และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เวลาต้องคุมตัวจำเลยไปขึ้นศาล และยังร่วมกับกรมราชทัณฑ์สืบสวนหาข่าวอยู่เสมอป้องกันการก่อเหตุ โดยวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ทางพ.ต.ท.บรรยินจะถูกพาตัวขึ้นศาลทุจริตในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษานี้
ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวทางกรมราชทัณฑ์ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียด หรือยืนยันเหตุการณ์ได้เนื่องจากเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังดำเนินการ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตนในฐานะอธิบดีกรมราชทัณฑ์คงไม่สามารถให้สัมภาษณ์ในลักษณะเป็นการยืนยันเหตุการณ์ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ทั้งนี้ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ
ส่วนมาตรการควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ก็คงบอกไม่ได้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนอย่างไร เป็นเรื่องของมาตรการระบบ ความปลอดภัยของ เจ้าหน้าที่ ยืนยันปลอดภัยดี ปัจจุบันนี้ทางเรือนจำได้เพิ่มความเข้มในการป้องกัน โดยไม่อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยม เว้นญาติเเละทนาย พร้อมแยกขังพ.ต.ท.บรรยิน ไม่ให้ติดต่อกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ เพื่อป้องกันการติดต่อกับบุคคลภายนอก พร้อมกับเฝ้าติดตามพฤติกรรม โดยการประเมินอารมณ์ และเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด ผ่านกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"บรรยิน"ผูกคอหวังฆ่าตัวตายแต่จนท.ช่วยทัน
เปิดเบาะแส "บรรยิน" วางแผนแหกคุก
"บรรยิน" มีแผน "แหกคุก" จริงไหม ฟังจากปาก "อธิบดีกรมราชทัณฑ์"
ศาลฯสั่งพิจารณาลับ"คดีบรรยิน" 22 มิ.ย.นี้ เพื่อความสงบเรียบร้อย
...สุดท้าย คงไม่มีใครยืนยันได้ว่า แผนแหกคุกมีจริงหรือเป็นพล็อตหนังดังที่ลูกสาวพ.ต.ท.เชื่อมั่น การคิดฆ่าตัวตายใช่เรื่องจริงหรือไม่ ก็ไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่ที่แน่ๆ พ.ต.ท.บรรยิน กำลังจะได้ถูกแยกขังในเรือนจำ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าข้างในเรือนจำนั้นความเป็นอยู่ เป็นอย่างไร...