“วัชระ”ร้องนายกฯ “พล.ต.อ.วิระชัย”ถูก“บิ๊กแป๊ะ”สกัดขึ้นผบ.ตร.

03 ส.ค. 2563 | 09:19 น.

“วัชระ”ร้องนายกฯ คืนความเป็นธรรมให้ “พล.ต.อ.วิระชัย” หลังถูก “บิ๊กแป๊ะ”สั่งสำรองราชการและดำเนินคดีปมดักฟังโทรศัพท์ ข้องใจหวังสกัดอาวุโสอันดับ 1 ขึ้นผบ.ตร.

วันนี้ (3 ส.ค.63) นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)  ผ่าน นายพันศักดิ์ เจริญ ผอ.รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล กรณี บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) สั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและให้สำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคมปีนี้ จนเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 22/2563 ลงวันที่ 23 มกราคม 2563 ให้ พล.ต.อ.วิระชัย กลับไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตามเดิม จึงต้องพิจารณาว่าคำสั่งของ ผบ.ตร.ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

 

นายวัชระ กล่าวว่า ตนเองเชื่อว่าเหตุที่นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้พล.ต.อ.วิระชัย ย้ายกลับไปที่เดิมเนื่องจากได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วไม่พบความผิด แต่เหตุใดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ กลับยังมอบหมายให้กองคดีอาญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.วิระชัย ในความผิดตามพ.ร.บ.โทรคมนาคม มาตรา 74 และความผิดตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 21 ฐานดักฟังโทรศัพท์ ในช่วงที่จะมีการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 

จากนั้นก็ได้มีการออกคำสั่งให้สำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย ซึ่งมีอาวุโสอันดับ 1 ในการที่จะได้รับการพิจารณาขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในวาระวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ซึ่งจะมีการพิจารณาในเร็วๆ นี้ และเหตุใด พล.ต.อ.จักรทิพย์ จึงสามารถออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับ พล.ต.อ.วิระชัย ได้ ทั้งที่เป็นคู่พิพาทกัน ซึ่งขัดกับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสอบสวนและพิจารณา หมวด 1 ว่าด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อที่ 3 ที่ระบุว่า ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและคณะกรรมการสอบสวนจะต้องไม่เป็นบุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์ในเรื่องที่สอบสวน หรือมีส่วนได้เสียในเรื่องที่สอบสวน เพราะผู้ออกคำสั่งเป็นคู่กรณีกับผู้ออกคำสั่งให้ถูกสอบสวน อีกทั้งเป็นผู้ปรปักษ์แห่งกันและกัน ถือว่ามีส่วนได้เสียอย่างยิ่ง หรือมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกกล่าวหา

 

รวมทั้ง การมีเหตุอื่นน่าเชื่ออย่างยิ่งว่าจะทำให้การสอบสวนเสียความเป็นธรรม เพราะผู้ที่เป็นคณะกรรมการสอบสวนล้วนแต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีความใกล้ชิดกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผู้ออกคำสั่ง โดยปราศจากผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก ที่มีความเป็นกลางควร ที่จะมาทำหน้าที่สอบสวนในเรื่องนี้

                                                    “วัชระ”ร้องนายกฯ “พล.ต.อ.วิระชัย”ถูก“บิ๊กแป๊ะ”สกัดขึ้นผบ.ตร.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โผตำรวจลงตัว“สุวัฒน์”ผงาดผบ.ตร. “ภัคพงษ์”คุมนครบาล“ต่อศักดิ์”นั่งผบช.ก.

พลิกปูม “พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ว่าที่ “ผบ.ตร.”

 "น้องเนวิน" คนไม่แย้งคดี "บอส อยู่วิทยา" ส่อวืด "รองผบ.ตร."

ที่แท้“พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ”สั่งยุติคดี“บอส อยู่วิทยา”

"พล.ต.ต.ต่อศักดิ์" เตือนสติการเป็นตำรวจที่ดีไม่ได้วัดที่การศึกษา

 

นอกจากนี้การที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ซึ่งมีอาวุโสอันดับ 1 ไปสำรองราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น อาจก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมายและบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชน หากข้าราชการในองค์กรของรัฐดังกล่าวไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว ประชาชนจะได้รับความเป็นธรรมอย่างไร

 

ทั้งนี้ นายวัชระ ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนได้เสียในการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด แต่เห็นว่าการกระทำของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ในฐานะผู้นำสูงสุดของตำรวจต้องบริหารราชการโดยยึดหลักความถูกต้องและมีธรรมาภิบาล การที่โยกย้ายและลงโทษรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอาวุโสลำดับที่ 1 ในช่วงกลางฤดูโยกย้ายย่อมเป็นเรื่องผิดปกติในสายตาของวิญญูชนโดยทั่วไป

 

“ยิ่งไปกว่านั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังเคยยอมรับว่าไม่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย จากการให้สัมภาษณ์เรื่องคดีนายบอส อยู่วิทยาด้วยนั้น ทำให้สงสัยว่าการออกคำสั่งกล่าวโทษ พล.ต.อ.วิระชัย จะเชื่อถือได้อย่างไรว่าได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว และหากไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายกรัฐมนตรีอาจต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบตามกฎหมายต่อไปอย่างไร จึงขอให้นายกรัฐมนตรีให้ความเป็นธรรมในกรณีนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่กำลังเสื่อมศรัทธาต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเกิดความสั่นคลอนกระบวนการยุติธรรมไทยเป็นอย่างยิ่งอยู่ในขณะนี้” นายวัชระ ระบุ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก.ตร. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับสูง ประจำปี 2563 ในวันศุกร์ที่ 7 ส.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ