เมื่อวันที่ 4 ส.ค.นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญสมาคมฯ เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาภาษียาสูบอันทำให้เกิดการลักลอบค้าบุหรี่ผิดกฎหมาย โดยแม้จะเป็นช่วงการล็อกดาวน์ ปิดด่านพรมแดนถาวรและด่านชั่วคราว แต่ปัญหาการค้าขายบุหรี่เถื่อนกลับไม่ได้ลดลง เห็นได้ชัดจากการที่มีข่าวจับกุมบุหรี่เถื่อนที่เกิดขึ้นรายวันตามแนวชายแดน และแต่ละครั้งที่เจ้าหน้าที่จับได้ ก็เป็นล็อตใหญ่ มูลค่าครั้งละ 3-10 ล้าน แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ ส่งออกไปขายตามจังหวัดต่างๆ ได้ โดยเฉพาะในจังหวัดทางภาคใต้ ทำให้สมาชิกของสมาคมฯ ซึ่งเป็นร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ถูกกฎหมายได้รับผลกระทบอย่างมาก
นางวราภรณ์ กล่าวต่อว่า จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่เพิ่มความเข้มข้นในนโยบายการป้องกันและปราบปรามบุหรี่เถื่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการประชุมกับคณะอนุฯ ได้รับปากที่จะประสานให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น และสมาคมฯ ก็จะได้ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะประสานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อเร่งให้ช่วยจัดการปัญหาบุหรี่เถื่อนโดยเร็ว
ด้านเจ้าของร้านโชห่วยรายหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ กล่าวว่า “ปัจจุบันร้านขายของชำที่ขายบุหรี่ถูกกฎหมายได้รับผลกระทบมากมาย แต่ยอดขายบุหรี่ถูกกฎหมายกลับลดลงจากปัญหาบุหรี่เถื่อนที่มีราคาถูกกว่ามาก บุหรี่เถื่อนก็มีเกลื่อนเมือง โดยเฉพาะในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทั้งในร้านถ่ายเอกสาร ร้านขายอาหาร ฯลฯ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อบจ. เจ้าหน้าที่เทศบาล หรือเจ้าหน้าที่สรรพสามิต จริงจังในการปราบปรามบุหรี่เถื่อนมากกว่านี้ ไม่ใช่แต่จะมาจ้องตรวจสอบเฉพาะร้านที่เสียภาษี”
“บุหรี่ราคาแพงขึ้นๆ ทุกปี เพราะรัฐบอกว่ายอดเก็บภาษีไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ต้องเก็บภาษีบุหรี่ให้แพงขึ้น แต่ยิ่งขึ้นภาษี บุหรี่ราคาแพงขึ้น แล้วยิ่งปล่อยปละละเลยให้บุหรี่เถื่อนเกลื่อนเมือง รายได้ภาษีของหาดใหญ่ก็ไม่เพิ่มขึ้นอยู่ดี”