ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(13ส.ค.63) เวลา 09.00 น. จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม
โดยการประชุมครม.นัดนี้จะมีรัฐมนตรีใหม่จำนวน 7 คน เข้าร่วมประชุมครม.ด้วยภายหลังจากได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 7 คนมีประกอบด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอนุชา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ในหลวง" พระราชทานกำลังใจ ให้รมต.ใหม่ ขอให้ทำหน้าที่ให้ดี
ภาพชุด 7 รมต.ใหม่ นัดถ่ายรูปติดบัตรครม. ก่อนเข้าถวายสัตย์ฯ
“คณะรัฐมนตรีชุดที่ 63” พร้อมลุยงาน (Infographic)
เรียกใต้โต๊ะ“อธิบดีกรมน้ำบาดาล” จ่อล้ม ครม.ประยุทธ์ 2/2
นายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน
ส่วนวาระการพิจารณาที่ต้องจับตาของครม.ประยุทธ์ 2/2 วันนี้ คือการแบ่งงานใหม่ให้เฉพาะรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เท่านั้น ส่วนงานของรัฐมนตรีใหม่แต่ละกระทรวงนั้น เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการของแต่ละกระทรวงที่จะไปตกลงกับรัฐมนตรีช่วยว่าการ จึงไม่มีการนำเสนอในครม.วันนี้
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า ในส่วนของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ จะได้รับมอบหมายให้ดูแลภารกิจเดิมก่อนหน้านี้ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ บางส่วนที่ไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ และจะถ่ายโอนภารกิจของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มาให้ดูแลเพิ่ม ซึ่งจะทำให้นายวิษณุ มีภารกิจลดลง
ส่วนนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก็จะเข้ามาดูแลงานเดิมของนายสมคิด เช่นเดียวกันแต่เพียงบางส่วนเท่านั้น
ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะได้รับผิดชอบงานเดิมของนายเทวัญ ลิปตพัลลภ มาดูแลเกือบทั้งหมด
และนอกจากนี้ ภารกิจของพลเอกประยุทธ์ จะมีเพิ่มขึ้นในภารกิจของการเป็น “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” แทนนายสมคิดด้วยตัวเอง โดยใช้โมเดลของ “ศบค.เศรษฐกิจ” หรือ คณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริสถานการณ์การถกแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นกรรมการและฝ่ายเลขานุการ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนและกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ ร่วมกับครม.
ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะประกอบไปด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติ สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ