09.30 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ “เพนกวิน” แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ประกาศชัยชนะ และนัดรวมพลอีกครั้ง 24 ก.ย. ที่รัฐสภา เพื่อไปร่วมรับฟังการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ และนัดชุมนุมครั้งต่อไปในวันที่ 14 ต.ค.
09.09 น. แกนนำประกาศยุติการชุมนุม
08.48 น. ทนายอานนท์ นำภา หนึ่งในแกนนำ ระบุว่า หลังยื่นหนังสือแล้วถือว่าเสร็จภารกิจ หลังจากนี้จะต้องติดตามผล
08.45 น. เจ้าหน้าที่เปิดแนวกั้น เพื่อให้ ปนัสยา “รุ้ง” สิทธิจิรวัฒนกุล และตัวแทนอีกคนฝ่าแนวกั้นเข้าไป พร้อมกับทีมการ์ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อตัวแทนองคมนตรี คือ พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ซึ่งข้อเรียกร้องมี 3 ข้อ คือ 1.รัฐบาลลาออก 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3. ปฏิรูปสถาบันฯ 10 ข้อ
08.37 น. ทนายอานนท์ นำภา ขอให้ตำรวจเปิดแนวกั้นเพื่อให้ตัวแทนเดินทางไปยื่นหนังสือ และขอให้ประธานองคมนตรีส่งตัวแทนมารับหนังสือ ต่อมาตำรวจแจ้งว่า จะให้น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล (รุ้ง) และตัวแทนอีก 2 คนเข้าไปยื่นหนังสือกับตัวแทนองคมนตรี โดยให้นักข่าวสามารถเข้าไปบันทึกภาพได้ที่ทำเนียบองคมนตรี
08.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เคลื่อนขบวนมาจนถึงแนวกั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณ หน้าศาลฎีกา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ประกาศว่า น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง หนึ่งในแกนนำ จะเป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือข้อเรียกร้องที่ทำเนียบองคมนตรี ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพระบรมมหาราชวังและกระทรวงกลาโหม พร้อมยืนยันว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีเจตนาให้เกิดการปะทะ
08.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวง เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากพื้นที่ โดยรถนำขบวนเลี้ยวออกจากสนามหลวงแล้ววนมาทางถนนราชดำเนินใน (ตรงข้ามศาลฎีกา) นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศบนเวทีว่าจะไม่เคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ แต่จะเดินหน้าไปยื่นข้อเรียกร้องของกลุ่ม ต่อพล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี พร้อมขอให้มวลชนเดินขบวนด้วยสันติวิธี เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ยิ้มเข้าไว้
" ภารกิจนี้เป็นภารกิจประวัติศาสตร์ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน"นายพริษฐ์ประกาศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังด้วยการตั้งแผงเหล็กปิดกั้นเต็มพื้นที่ถนนบริเวณหน้าศาลฎีกา
08.00 น. แกนนำการชุมนุมประกาศระดมพล เพื่อส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือ 3 ข้อเรียกร้อง และ 10 ข้อปฏิรูปสถาบันฯ โดยแกนนำย้ำว่าจะต้องไปแบบอหิงสา หลีกเลี่ยงการปะทะ และอยากให้ผู้ชุมนุมกลับบ้านอย่างปลอดภัย ขอให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามคำสั่งของแกนนำอย่างเคร่งครัดขณะเคลื่อนขบวน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน หนึ่งในแกนนำ ขอให้ผู้ชุมนุมสัญญาว่าจะหลีกเลี่ยงการปะทะ หากใครทำไม่ได้ก็ไม่ต้องไป
06.40 น. ตัวแทนเป็นเด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษา อัญเชิญ “หมุดคณะราษฎร” ซึ่งเป็นหมุดหมายแห่งประชาธิปไตย ตัวหมุดมีขนาด 11.61 นิ้ว หล่อด้วยทองเหลือง 100 เปอร์เซ็นต์ลงจากเวที และร่วมกับแกนนำผู้ชุมนุมเริ่มพิธีปักหมุดลงพื้นดิน โดยมีผู้แต่งตัวคล้ายพราหมณ์ร่วมทำพิธี พร้อมให้กล่าวคำสาปแช่งพร้อมกัน ว่าหากใครถอนหมุดนี้ ขอให้พบแต่ความวิบัติฉิบหาย เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ต่อด้วยตัวแทนมหาลัยธรรมศาสตร์ โดย นายพริษฐ์ อ่านประกาศคณะราษฎร 2563 ฉบับที่ 1
“ที่นี่คือสนามแห่งราษฎร์ ที่นี่คือแผ่นดินแห่งราษฎร”
06.30 น. การชุมนุมของกลุ่ม “ธรรมศาสตร์และการชุมนุม” โดยใช้ชื่อการชุมนุมว่า “19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร” ได้เตรียมพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวง เพื่อปักหมุดคณะราษฎร หมุดที่ 2
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ขึ้นประกาศบนเวทีคารวะดวงวิญญาณวีรชนประชาธิปไตย และประกาศว่า “วันนี้คือวันที่เราจะประกาศศักดา ประกาศหมุดหมาย เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ว่า แผ่นดินนี้เป็นของราษฎรซึ่งจะถูกจารึกไว้ที่สนามหลวงนี้”
05.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยรอบทำเนียบรัฐบาลในระดับเข้มข้น โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแบริเออร์ (เครื่องกีดขวาง) ทั้งแบบคอนกรีตและแบบพลาสติก รวมทั้งรั้วลวดหนาม มาติดตั้ง โดยเริ่มนำมาแต่ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมาหลังทางแกนนำการชุมนุมประกาศจะเดินทางไปทำเนียบในรุ่งเช้าวันนี้ (20 ก.ย.)
พร้อมกันนี้ จนท. ได้ติดป้ายห้ามผ่านเส้นทางสะพานมัฆวานฯ เพราะผิด เงื่อนไข พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และยังมีการนำรถดับเพลิงเข้าพื้นที่ชั้นในตั้งแต่บริเวณแยกวัดเบญจมบพิตร และบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยไม่อนุญาตให้รถ หรือบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องผ่าน
ตั้งแต่เช้าจะสังเกตได้ว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลประจำจุดแยกต่าง ๆ ที่จะมุ่งหน้ามายังทำเนียบรัฐบาล สถานที่สำคัญ และถนนราชดำเนินนอก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง