จากการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระหว่างวันที่ 14-15 ต.ค. 2563 และมีการเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ กล่าวต้อนรับในโอกาสที่นายหวัง อี้ มาเยือนไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีในวาระครบรอบ 45 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และยังเป็นโอกาสในการยืนยันความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทยกับจีน ในโอกาสนี้ รัฐบาลจีนขอถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
"นายหวัง อี้ กล่าวว่า เป็นเกียรติที่เป็นรัฐมนตรีจีนคนแรกที่เดินทางเยือนไทยหลังสถานการณ์โควิด เป็นการแสดงความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ในไทย โดยเชื่อว่ามิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีนจะช่วยเพิ่มพูนความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในทุกระดับ ทั้งนี้ ขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีที่ดำเนินมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคด้วยดี ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของประชาชนไทยด้วย"
ทั้งสองฝ่ายย้ำถึงความร่วมมือในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมความสำเร็จของจีนในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ก้าวหน้าไปสู่ระยะที่ 3 แล้ว โดยชื่นชมวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่กำหนดให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็น "สินค้าสาธารณะของโลก" ฝ่ายจีนได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนของจีน ว่าขณะนี้กำลังเข้าสู่กระบวนการทดลองในมนุษย์ ซึ่งการพัฒนาวัคซีนมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งจีนจะพิจารณาให้ความสำคัญแก่ประเทศในภูมิภาคและมิตรประเทศร่วมกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯเข้าทำเนียบรัฐบาล ตอนรับ "หวัง อี้"หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
นายกฯสั่งเปลี่ยนสถานที่พบรมว.ต่างประเทศจีน หนีม็อบ14ตุลา
จีนเริ่มทดลองวัคซีนโควิด-19 เฟส 3 ในต่างประเทศ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยที่ไทยคำนึงถึงจีนในฐานะคู่ค้าที่สำคัญ มีตัวเลขการค้าระหว่างกันที่สูง และเป็นนักลงทุนสำคัญในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งไทยพร้อมจะร่วมมือกับจีนด้านการค้าการลงทุนแบบพหุภาคี ตลอดจนขอบคุณฝ่ายจีนที่ร่วมลงทุนในไทยในสาขาใหม่ๆ ได้แก่ ด้าน Digital Big Data และ 5G
ทั้งนี้ ฝ่ายจีนพร้อมเดินหน้าการพัฒนาด้าน Digital Economy กับไทย ยืนยันว่ารัฐบาลจีนพร้อมสนับสนุนการลงทุนในไทย และจีนพร้อมสนับสนุนความเชื่อมโยงเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกกับเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีฝากคำขอบคุณถึงประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ได้ให้คำมั่นในการดูแลข้อห่วงกังวลของประเทศในอนุภูมิภาคเกี่ยวกับระดับน้ำในแม่น้ำโขง พร้อมชื่นชมพัฒนาการความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในแม่น้ำโขงและแม่น้ำล้านช้าง ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ที่ได้ประชุมร่วมกัน และไทยยินดีสนับสนุนงาน China International Import Expo (CIIE) ครั้งที่ 3 และงานแสดงสินค้าอาเซียน-จีน (CAEXPO) ครั้งที่ 17 ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนพ.ย.นี้ ที่ประเทศจีน