ลุ้น! ‘บิ๊กตู่’ได้ไปต่อ คดีบ้านพักทหาร

ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยเรื่องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) หรือไม่ ในวันพุธที่ 2 ธ.ค.2563 เวลา 15.00 น. 

 

คดี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้าน ได้ยื่นร้องผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ ใช้บ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นบ้านพักของราชการทหารเป็นที่พักอาศัยของตนเองและครอบครัว ตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2553 จนถึงปัจจุบัน โดยไม่เสียค่าเช่าให้กับราชการทหาร ทั้งที่เกษียณอายุราชการมาตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2557 

 

อาจเข้าข่ายเป็นการรับประโยชน์ใดๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 184 (3) และเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้นำมาใช้กับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (5)

 

ก่อนจะอ่านคำวินิจฉัย ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ประกอบด้วย 1. นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 2. นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ 3. นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ 4. นายปัญญา อุดชาชน 5. นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม 6. นายวิรุฬห์ แสงเทียน 7. นายจิรนิติ หะวานนท์ 8. นายนภดล เทพพิทักษ์ และ 9. นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ จะนำคำแถลงส่วนตนมาแถลงร่วมกัน เสร็จแล้วก็ดูว่าคำวินิจฉัยของฝ่ายไหนชนะ ถ้าฝ่ายไหนชนะก็นำเอาคำวินิจฉัยของฝ่ายนั้นมาเขียนรวมกัน เป็น “คำวินิจฉัยกลาง” เพื่อออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น.

 

 

 

ลุ้น“บิ๊กตู่”ได้ไปต่อ

 

รายงานข่าวแจ้งว่า คดีนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อภิปรายและแสดงความคิดเห็นกันอย่างหนักหน่วง และคาดว่ามติคำวินิจฉัยจะไม่ออกมาเป็นเอกฉันท์ แต่จะเป็นไปในทิศทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ รอดตัวไป ยังสามารถเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ในแง่ข้อกฎหมาย หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รอด จะต้องเว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปี คือ ไม่สามารถเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (8) ที่ระบุว่า “ไม่เป็นผู้เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะเหตุกระทําการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 186 หรือมาตรา 187 มาแล้วยังไม่ถึงสองปีนับถึงวันแต่งตั้ง”

 

 

 

 

นายกฯเคารพคำตัดสิน

 

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า เคารพคำตัดสินศาล โดยได้ส่งฝ่ายกฎหมายไปฟังคำพิพากษา และทุกอย่างขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกรณีนี้ก็ได้ชี้แจงไป การตรวจสอบก็ชี้แจงไปก็เท่านั้น ผิดก็คือผิด ไม่ผิดก็คือไม่ผิดก็จบ ซึ่งก็เหมือนคดีทั่วๆ ไป 

 

นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า รัฐสภายังไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับกระบวน การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในวันที่ 2 ธ.ค.นี้

 

 

 

คณะราษฎรลุ้นคดี“บิ๊กตู่”

 

ด้านความเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมกลุ่ม “คณะราษฎร” เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563 เพจเฟซบุ๊ก “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม-United Front of Thammasat and Demonstration” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ในวันพรุ่งนี้ วันที่ 2 ธันวาคม ถือเป็นอีกหนึ่งวันในหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่จะชี้ชะตาการเมืองไทยว่าจะเดินไปในทิศทางใด เพราะว่าศาลรัฐธรรมนูญจะทำการตัดสินคดีของ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เรื่อง “บ้านพัก” ซึ่งหากมีความผิดจริงแล้วนั้น จะทำให้ประยุทธ์ สามารถหลุดออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากศาลรัฐธรรมนูญเล็งเห็นว่าเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญเนื่องจากขาดคุณสมบัติ ดังนั้นแล้ว ในวันพรุ่งนี้จึงขอเรียกระดมพี่น้องราษฎรทั้งหลายออกมากัน ณ ห้าแยกลาดพร้าว เวลา 16.00 น. 2 ธันวาคมนี้ทุกคนเจอกัน!” 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,632 หน้า 12 วันที่ 3 - 5 ธันวาคม 2563