เมื่อวันที่ 4 ม.ค.64 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า วันนี้ตนส่งจดหมาย EMS ไปสองเรื่อง คือ
1. ท้านายกฯ ให้แก้ข้อกล่าวหาต่อหน้าสื่อมวลชน เนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ต.ค.63 นายกฯ เคยถามสื่อมวลชนว่า ผมทำผิดอะไร ซึ่งเรื่องนี้นายเรืองไกร อ้างว่า ขณะนี้มีหลักฐานที่จะแฉความผิดของนายกฯ แล้ว และเป็นหลักฐานของนายกฯ เอง
“ถ้านายกฯ มั่นใจว่าไม่มีความผิด และเป็นชายชาติทหาร ฆ่าได้หยามไม่ได้ เชื่อว่านายกฯ ต้องรับคำท้านี้ แต่บอกได้เลยว่า งานนี้มีเสียวสันหลังแน่นอน อาจถึงกับต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกได้ โดยเสียงข้างมากในสภาก็ช่วยไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นกรณีที่มีหลักฐานเป็นใบเสร็จการทุจริต แต่หาก นายเรืองไกร ไม่มีหลักฐาน หรือแสดงหลักฐานเท็จไม่มีมูลความจริง จะกราบขอโทษนายกฯ ต่อหน้าสื่อมวลชน และยินยอมถูกนายกฯ ฟ้องร้องดำเนินคดีจนถึงที่สุด”
2.เรื่องคุณสมบัติของนายสิระ เจนจาคะ ที่เคยถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ อันเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) ซึ่งเรื่องนี้ นายเรืองไกร ระบุว่า จะอ้างพรบ.ล้างมลทินฯ 2550 มาเป็นประโยชน์ หาได้ไม่ เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดเคยวินิจฉัยไว้เมื่อปี 2559 ว่า พรบ.ล้างมลทิน ไม่มีมาตราใดให้ลบล้างคำพิพากษา และศาลฎีกาก็เคยวินิฉัยในทำนองเดียวกัน
ดังนั้น จึงขอให้ กกต. ตรวจสอบว่านายสิระ ต้องพ้นจาก ส.ส.หรือไม่ พร้อมทั้งขอให้ กกต.ขยายผลการตรวจสอบไปยัง รมต. ส.ส. และ ส.ว. ทุกคนว่า มีผู้ใดขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(10) อีกหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวสรุปว่า ตนจะคอยดูว่านายกฯ จะกล้ารับคำท้าหรือไม่ และ กกต.จะรีบตรวจสอบนายสิระ หรือไม่ รวมทั้งขยายผลการตรวจสอบ รมต. ส.ส. ส.ว.ให้ครบทุกคนหรือไม่