วันนี้(19 ม.ค.64) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ไลฟ์สดทางเพจคณะก้าวหน้าในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทานฯ : ใครได้-ใครเสีย? วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหวังสร้างคะแนนนิยมวัคซีนโควิด พร้อมถามหากผิดพลาดรับผิดชอบไหวไหม โดยระบุว่า การจัดหาวัคซีนนายกฯ ย้ำอยู่เสมอว่าจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน มีคณะกรรมการตรวจสอบ และให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนสูงสุด รวมทั้งคนไทยทุกคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน ไม่เคยคิดเรื่องการเมืองเอาคะแนนนิยมใดๆตรงกันข้ามเรื่องชีวิตความปลอดภัยของคนไทยมีค่าสูงสุด
ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์แล้วว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีการอนุญาตให้นำวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ล็อตแรกมาใช้ในประเทศไทยเป็นกรณีฉุกเฉิน และนายกฯ ได้ให้ อย.เร่งดำเนินการพิจารณาตรวจสอบวัคซีนแล้ว
ขณะเดียวกันหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนแล้ว จะมีการติดตามผลที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วเป็นเวลา 4 สัปดาห์ เป็นการแสดงให้เห็นว่านายกฯ และรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะนำวัคซีนเข้ามาฉีดให้กับคนไทยและให้ปลอดภัยสูงสุด ดังนั้น จึงขอ นายธนาธร อย่ามาพูดกล่าวหาแบบมั่วๆ และรีบสรุปในเรื่องของการนำวัคซีนเข้ามา เพราะอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ทุกอย่างต้องผ่านการรับรองว่าเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพจากต่างประเทศด้วยและทุกบริษัทก็สามารถมายื่นขอใบรับรองจาก อย.ได้ตามขั้นตอนราชการถ้ามั่นใจในคุณภาพของวัคซีน
ส่วนที่ นายธนาธร กล่าวโยงใยว่าวัคซีนบางบริษัทไปเกี่ยวข้องพาดพิงกับสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น นายสุภรณ์ ระบุว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ถือเป็นการไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งที่ผ่านมาสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อช่วยเหลือประชาชน และในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ได้พระราชทานเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาชีวิตประชาชนทั้งประเทศมากมายนานาประการซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สุด นายธนาธร ไม่เคยมีจิตสำนึกแม้แต่นิดเดียว อยากถาม นายธนาธร ว่า หัวใจยังเป็นคนไทยอยู่หรือเปล่า
ทั้งนี้ตนเองจะให้ทีมฝ่ายกฎหมาย พิจารณาในคำพูดของ นายธนาธร ว่าส่อเจตนา จาบจ้วงสถาบัน หรือผิดกฎหมายตาม มาตรา 112 หรือไม่ และได้มีการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จต่อนายกฯและรัฐบาล กล่าวหาแบบใส่ความไม่ตรงกับข้อเท็จจริงทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ก่อให้เกิดความเสียหายหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเนื้อหาดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิด จะเข้าแจ้งความ ที่ ปอท.เพื่อดำเนินคดีกับนายธนาธร เพื่อจะได้หยุดจาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบัน และบิดเบือนใส่ร้ายคนอื่น เผื่อที่คนอย่างนายธนาธร จะได้รู้จักสำนึกและเข็ดหลาบเหมือนคนอื่นเขาบ้างสักนิดก็ยังดี
“คนแบบนายธนาธร ที่วันๆ คิดแต่จะกล่าวหาคนอื่น หรือจาบจ้วงสถาบัน ตนเองมองว่าไม่สมควรอยู่ในแผ่นดินไทยอีกต่อไป จะไปตายไหนก็ไปก่อนที่คนไทยที่จงรักภักดีและปกป้องสถาบันจะทนไม่ไหว และผมมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ก็เบื่อหน่ายไม่อยากต้อนรับ นายธนาธร เพราะเห็นได้จาก นายธนาธรเดินทางไปจังหวัดใดก็มีแต่ประชาชนออกมาขับไล่ตลอด”
ทั้งนี้ในสถานการณ์ประเทศขณะที่กำลังประสบปัญหากับการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ไม่มีใครคิดที่จะมาเล่นการเมืองเพื่อหวังคะแนนนิยมจากประชาชน หากจะมีคงเป็น นายธนาธร มากกว่า ที่ออกมาพูดเพื่อหวังตีกินทางการเมืองโดยไม่สนใจประเทศชาติและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนในขณะนี้