คณะรัฐมนตรี(ครม.) รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมติอนุมัติมาตรการเยียวยารอบ2 เพื่อบรรเทาผลกระทบประชาชนจากการระบาดของโรคไวรัสโควิดระลอกใหม่ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย 31.1 ล้านคน กรอบวงเงินราว 210,000 ล้านบาท ผ่านโครงการ“เราชนะ” ไม่เกินคนละ 7,000 บาท โดยกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการได้รับสิทธิรับเงินเยียวยาอัตโนมัติ ขณะที่ผู้มีแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง หากผ่านเกณฑ์จะได้ข้อความเตือน กดรับสิทธิ์ ส่วนกลุ่มทั่วไป จะเปิดให้ลงทะเบียนรับเงินเยียวผ่านเว็บไซต์ www.เราชนะ.com วันแรก 29 กุมภาพันธ์นี้
สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับสิทธ์เงินเยียวยาเดือนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน รวม 7,000 บาท จะเน้นใน 3 กลุ่มหลัก 1. กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (รายได้กว่า 30,000 บาท/ปี ได้รับเงิน ในบัตรฯ 200 บาท/เดือน) จํานวนไม่เกิน 10,127,587 คน คนละ 3,200 บาท รวมทั้งสิ้น 31,408 ล้านบาท กลุ่มนี้ไม่ต้องลงทะเบียนจะได้รับสิทธิ์การจ่ายเงินทันทีสัปดาห์ละ 675 บาท หรือ 2,700 บาทต่อคนต่อเดือน
2.กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (รายได้ระหว่าง 30,000- 100,000 บาท/ปีที่ได้รับเงินในบัตรฯ 300 บาท/เดือน) จํานวนไม่เกิน 3,610,436 คน คนละ 3,300 บาท รวมทั้งสิ้น 11,914 ล้านบาท คนกลุ่มนี้จะได้รับเงินเพิ่มเป็น 700 บาท/สัปดาห์ หรือตกประมาณ 2,800 ต่อเดือน โดยจะโอนเงินให้สัปดาห์ละครั้ง โอนครั้งแรก 5 ก.พ.นี้ จนกว่าจะครบ 7,000 บาท
3.กลุ่มผู้ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง/เราเที่ยวด้วยกัน และผ่านการยืนยันตัวตน ภายในวันที่ 27 ม.ค. 2564 และกลุ่มที่ไม่มีข้อมูลอยู่ในระบบฐานข้อมูลอีก 17,361,977 คน คนละ 3,500 บาท/เดือน รวมทั้งสิ้น 121,533 ล้านบาท กลุ่มนี้รัฐจะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลในเรื่องของรายได้ว่ามีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท โดยเมื่อตรวจสอบแล้วผู้ได้รับสิทธิ์จะได้รับเงินเข้าเป๋าตังเป็นรายสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1,000 บาท เริ่มจ่ายครั้งแรกในวันที่ 18 ก.พ.นี้
ระยะเวลาดําเนินการ 5 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม- พฤษภาคม 2564 โดยรูปแบบการจ่ายเงินนั้น จะทะยอยจ่ายเงินเข้าบัญชีกระเป๋าตังค์ ผู้รับเงินเยียวยาไม่สามารถเบิกเงินสดได้ ต้องนําไปใช้ผ่านระบบ เพื่อชําระค่าสินค้า เครื่องดื่ม อาหาร และบริการต่างๆ แต่ไม่รวมถึงสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาสูบ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขที่เข้มข้นสำหรับผู้ได้รับสิทธิ์เงินเยียวยาเพิ่มเติมอีก 5 ข้อ
1.ไม่เป็นผู้ประกันตนตาม ม. 33 แห่งกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม ซึ่งหมายถึงมนุษย์เงินเดือน ลูกจ้างที่จ่ายเงินสมทบเข้าประกันสังคมไม่ว่าจะมีเงินเดือน รายได้เท่าไหร่
2. ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานใน หน่วยงานของรัฐที่ได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐโดยตรง
3. ไม่เป็นข้าราชการการเมือง ไม่เป็นผู้รับบํานาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ
4. ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 300,000 บาทในปีภาษี 2562 ซึ่งหมายรวมไปถึงว่า เป็นผู้มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 25,000 บาทขึ้นไป ซึ่งข้อมูลของกรมสรรพากรระบุว่า มีอยู่ประมาณ 4.4 ล้านคน
5. เป็นผู้ที่ไม่มีเงินฝากรวมทุกบัญชีเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งตามข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันคุ้มครองเงินฝากพบว่ามี อยู่ประมาณ 1.7 ล้านคน
จากเงื่อนไขนี้เท่ากับว่า ผู้มีอาชีพอิสระ เกษตรกร ลูกจ้างทั่วไป ถ้าใครมีรายได้เกินปีละ 300,000 บาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 25,000 บาทก็หมดสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาทันที และแม้ว่าคนเหล่านี้จะมีรายได้ไม่เกิน 300,000 บาท แต่หากใครมีเงินฝากในทุกบัญชีรวมกันเกินกว่า 500,000 บาท ก็หมดสิทธิ์รับเงินเยียวยาเช่นกัน
จากข้อมูลของธปท.พบว่า ณ เดือนพฤศจิกายน ผู้มีเงินฝากตั้งแต่ 5 แสนบาทถึง 500 ล้านบาทมีทั้งสิ้น 3,231,836 บัญชี รวมมูลค่า 13,275,009 ล้านบาท
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าวว่า สาเหตุที่่ครั้งนี้ไม่จ่ายเป็นเงินสด เพราะต้องการช่วยคนตัวเล็กที่ได้รับผลกระทบที่จะเปิดให้ร้านค้า หาบเร่ แผงลอย เข้ามาลงทะเบียน รองรับการใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้นด้วยและจะสงวนสิทธิ์ไม่ให้ นิติบุคคลเข้าร่วมโครงการ
ที่มา : หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,646 วันที่ 21 - 23 มกราคม พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดไทม์ไลน์"เราชนะ" เริ่มลงทะเบียน www.เราชนะ.com วันไหน รับวงเงินเมื่อไหร่ เช็กที่นี่
เช็กด่วน “เราชนะ” ครม.อนุมัติแล้ว แจกเงินเยียวยา 31.1 ล้านคน ลงทะเบียนผ่าน www.เราชนะ.com
ฉลุย ครม.เคาะลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส2 เปิดทางคนถูกตัดสิทธิลงทะเบียนใหม่ได้
อัพเดท"เราชนะ" เงินเยียวยา 3500 บาท กลุ่มไหนรอรับอัตโนมัติ-กลุ่มไหนต้องลงทะเบียน www.เราชนะ.com
“เราชนะ”เคลียร์ชัด สิทธิรับเงินเยียวยา รายได้ไม่เกิน 3 แสน ไม่รวมลดหย่อนภาษี