เพจเฟซบุ๊ก Mob Fest แนวร่วมม็อบราษฎร ประกาศวานนี้ (18 ก.พ.) นัดรวมพลหน้ารัฐสภา เกียกกาย ในวันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น. และวันเดียวกันเพจเฟซบุ๊กของนายอานนท์ นำภา หนึ่งในแกนนำกลุ่มราษฎรซึ่งขณะนี้ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษ ได้โพสต์ข้อความให้กำลังใจผู้สนับสนุน ขอให้ช่วยกันยืนหยัดมั่นคงในหลักการแต่อย่าใช้ความรุนแรงในการชุมนุม ขณะที่กลุ่มแนวร่วมในต่างจังหวัด ได้โพสต์ข้อความ ระดมพลเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ในกทม.วันที่ 20 ก.พ. ซึ่งตรงกับวันที่สภาผู้แทนราษฎรจะโหวตในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
ในส่วนของกิจกรรม Mob Fest ที่เป็นแนวร่วมกลุ่มราษฎรนั้นระบุที่มาของการระดมพลชุมนุมผ่านเฟซบุ๊กว่า ตลอดระยะเวลากว่า 7 ปีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจ โกงเลือกตั้ง พาประชาชนขึ้นรถไฟเหาะด้วยคำสัญญา แล้วดิ่งลงมาสู่ความจริง แม้แต่เรื่องที่เร่งด่วนและคอขาดบาดตายอย่างโควิดก็ยังโกงซ้อนโกง ล่าช้าเลินเล่อ ไม่เห็นหัวประชาชน ตอนยึดอำนาจบอกว่า มาปราบโกง เฉลย : ตอนนี้โกงหนักกว่าเก่า โกงทั้งระบบ โกงทะลุฟ้า
เนื้อหาของ Mob Fest ระบุจะไปร่วมกันรวมตัวหน้ารัฐสภาศุกร์ที่19 ก.พ. เวลา 17.00 น. ไม่ต้องมีดนตรี แต่ให้ผู้ร่วมชุมนุมนำหม้อไหกะละมังไปตี และร่วมดูไลฟ์อภิปรายไม่ไว้วางใจบนจอยักษ์ สลับกับการอภิปราย 10 ประเด็นเร่งด่วนโดยประชาชน
หลังจากนั้นวันเสาร์ที่ 20 ก.พ. กลุ่มราษฎรได้นัดรวมตัวชุมนุมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อกดดันทางการให้ปล่อยตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำราษฎร นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายปฏิวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ หมอลำแบงค์ ที่ถูกฝากขังในความผิดอาญาตามมาตรา 112 หลังจากขีดเส้นไว้ภายใน 7 วัน โดยล่าสุด เพจเฟซบุ๊คแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ข้อความ ระบุถึงการชุมนุมใหญ่ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20 ก.พ.ว่า
"เหลือเวลาอีก 2 วัน จะถึงเส้นตายที่ขีดไว้ ขอให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนผู้รักในประชาธิปไตยเตรียมตัวให้พร้อมกับการนัดหมายที่จะถึง เวลาและสถานที่เราจะแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันในวันที่ 19 ก.พ. ติดตามอัพเดตอย่างใกล้ชิดได้ที่เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม #ม็อบ20กุมภา"
ขณะที่เฟซบุ๊กของนายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปในนาม "ม็อบ 3 นิ้ว" ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษ ได้มีการโพสต์ข้อความของนายอานท์ ระบุถึงมิตรสหายร่วมอุดมการณ์ว่า เป็นความยากลำบากในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้องชอบธรรมทั้งปวงในเวลานี้ เพราะอีกฝ่ายมีทั้งปืนและกฎหมายเป็นเครื่องมือ การจะล้างคราบความสกปรกเลวทรามโดยใช้ผ้าหรือน้ำที่มีความสกปรก ย่อมส่งผลให้ไม่สามารถทำให้ความขาวสะอาดเกิดขึ้นมาได้ ต้องใช้ผ้าที่สะอาดและน้ำที่สะอาดในการชะล้างความสกปรกเลวทรามเหล่านั้น
“การต่อสู้ทางการเมืองก็เช่นกันการใช้ความรุนแรงเข้าต่อสู้กับรัฐที่ยั่วยุให้ใช้ความรุนแรง ไม่สามารถนำชัยชนะมาสู้ขบวนได้ มีแต่จะทำให้ขบวนของเรานับถอยหลังสู่ความพ่ายแพ้เท่านั้น ขอให้มิตรสหายทุกท่านช่วยกันยืนยันและมั่นคงในหลักการไม่ใช้ความรุนแรงในการชุมนุม ใช้ความมุ่งมั่นและความจริงใจ ใช้หลักการเหตุผลที่เหนือกว่า เพื่อเอาชนะพวกเขาเหล่านั้น คุกขังผมได้แค่ร่างกาย แต่หัวใจจะยืนอยู่เคียงข้างพี่น้องในที่ชุมนุม”
นอกจากความเคลื่อนไหวในกทม.แล้ว แกนนำม็อบกลุ่มต่างๆ ในต่างจังหวัดยังเริ่มเคลื่อนไหวระดมนัดหมายมวลชนเพื่อร่วมชุมนุมในวันที่ 20 ก.พ.นี้ด้วย โดยกลุ่มขอนแก่นพอกันที โดย นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ แกนนำ ได้แจ้งมวลชนโดยโพสต์ข้อความ ผ่าน ทางเฟซบุ๊ค ระบุว่า "20 ก.พ. 64 ใครพร้อม เข้ากรุงเทพเข้า ใครใกล้ขอนแก่นไป (เตรียมพร้อมยกเข้ากรุงเทพ)"
ขณะที่กลุ่มสหภาพร้อยเอ็ดปลดแอก ได้โพสต์ข้อความเช่นกันระบุว่า "รวมพลใหญ่ ลาดสะดอนอีสาน 20 ก.พ. ถนนทุกสายในภาคอีสานมุ่งสู่ขอนแก่น (สถานที่เป็นอย่างใด รอติดตาม) #มีค้างคืนแน่นอน เตรียมสัมภาระให้พร้อม ก้าวแรกของการเดินหน้าต่อสู้ ในปี 2564 ถ้าไม่มีแรงกดดัน มันไม่ปล่อยเพื่อนเราแน่นอน"
ที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์คือ ไม่ใช่มีเพียงกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรและแนวร่วมเท่านั้นที่ระดมพลเตรียมเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.ลากยาวถึง 20 ก.พ. แต่ในอีกฝั่งหนึ่งคือ ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ก็ได้เคลื่อนไหวนัดหมายชุมนุมในวันเดียวกัน โดยมีการโพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊คระบุว่า "ศปปส.ขอประกาศวันที่ 20 ก.พ.นี้ 3 กีบอยู่ไหน ศปปส.อยู่นั่น ขอให้พี่น้อง ศปปส. เตรียมตัวให้พร้อม รองเท้าผ้าใบกับใจถึงๆ แล้วเจอกันค่ะพี่น้อง"
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) วิเคราะห์ว่า วันที่ 20 ก.พ. อาจหนีไม่พ้นการนองเลือด เนื่องจากทั้งสองฝ่ายควบคุมกันไม่ได้และมีโรคแทรก ซึ่งไม่เคยมีใครป้องกันได้ในระหว่างชุมนุม “บทเรียน 13 กุมภาพันธ์ถ้าไม่แก้ไขแล้ว ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ผมว่าเป็นจุดเปลี่ยน และระหว่างจากวันที่ 13 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์นั้น ถ้าอัยการทำเรื่องไปถึงศาลฟ้องแกนนำที่เหลืออยู่ และให้เหตุผลอันเดียวกันนั้น ผมว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก และไม่ง่ายกับสถานการณ์อันนี้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: