พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กรณีม็อบราษฎรประกาศให้ผู้ชุมนุมเตรียมตัวให้พร้อมในวันที่ 20 ก.พ. 2564 หลังรัฐไม่ตอบสนองปล่อย 4 แกนนำ ว่าจะมีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วแบ่งเป็น 5 ชุด กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อตรวจตราและตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยที่อาจพกพาสิ่งผิดกฎหมายหรือสิ่งเทียบอาวุธ วัตถุระเบิดที่เตรียมมาใช้ในการชุมนุมจะมีการควบคุมตัวและพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนการชุมนุมในวันนี้ 19 กุมภาพันธ์ 2564 หากพบมีการใช้ความรุนแรงเช่นเดียวกับวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะดำเนินการตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ซึ่งมั่นใจว่าตำรวจมีกำลังเพียงพอดูแลผู้ชุมนุม โดยได้แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เป็น 3 ส่วน ส่วนแรกสำหรับดูแลผู้ชุมนุมในพื้นที่ซึ่งอาจมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกระทบส่วนรวม ส่วนที่ 2 ป้องกันเหตุจากมือที่ 3 และส่วนที่ 3 สำหรับดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนที่อาศัยบริเวณดังกล่าวและส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าปัจจุบันกรุงเทพมหานครยังอยู่ระหว่างการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควบคุมโรค ซึ่งหากมีการชุมนุม ก็จำเป็นต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกราย รวมถึงผู้ที่มีการโพสต์ข้อความชักชวนให้มีการชุมนุมด้วย ซึ่งจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย
ด้านพลตำรวจตรีจิรสันต์ เเก้วเเสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ที่มีการนัดชุมนุม เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนทั้งเรื่องเวลาและสถานที่ ตำรวจจึงประเมินว่าอาจมีการนัดชุมนุมในช่วงบ่าย พร้อมแนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และสนามหลวง โดยคาดว่าเส้นทางที่จะได้รับผลกระทบคือ ถนนราชดำเนินกลาง ช่วงแยกคอกวัว-แยกผ่านฟ้า และ ถนนดินสอ ช่วงแยกสะพานวันชาติ-แยกมหรรณพ พร้อมแนะนำให้ประชาชนเลี่ยงไปใช้สะพานพระราม 8 สะพานซังฮี้ และสะพานพุทธหรือสะพานพระปกเกล้า เพื่อเดินทางข้ามฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรีได้