ภาพโดย สุกฤษฏิ์ สืบสาย/ฐานเศรษฐกิจ
หลังจากที่ เพจเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก แนวร่วมกลุ่ม คณะราษฎร โพสต์นัดรวมตัววันนี้ (28 ก.พ.) เวลา 15.00 น. เพื่อแสดงพลังด้วยการเดินเท้าจากอนุสาวรีย์ฯ ถึงบ้านพัก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ที่ค่ายกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถนนวิภาวดีฯ เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมายปรากฏว่า มี มวลชนกลุ่มราษฎร กลุ่มคนเสื้อแดง และแนวร่วมเยาวชนปลดแอก ตลอดจนกลุ่มการ์ด ทยอยเดินทางมารวมตัวกันพร้อมด้วยรถติดเครื่องขยายเสียง 2 คัน รอเวลาเคลื่อนขบวนไปบ้านพักนายกฯ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกว่า “บ้านพักหลวงประยุทธ์"
สำหรับเป้าหมายกิจกรรมที่มีการระดมมวลชนตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ทาง เพจเยาวชนปลดแอก ระบุว่า ดำเนินการในนาม กลุ่ม REDEM อันมีธงแดงอักษรขาวเป็นสัญลักษณ์ เพื่อร่วมกันเดินขบวนขับไล่เผด็จการ และต่อสู้เพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย ไล่ทหารออกจากการเมือง และเอาชนะความจนด้วย "รัฐสวัสดิการถ้วนหน้า" เพื่อการปลดแอกที่แท้จริง
ผู้อ่านสามารถติดตาม อัพเดทสถานการณ์และภาพสถานการณ์จาก “ฐานเศรษฐกิจ” ได้อย่างต่อเนื่อง
ประมาณ 14.00 น. มวลชนกลุ่ม “รีเด็ม” (REDEM) ซึ่งประกอบด้วยคณะราษฎรและแนวร่วมพันธมิตร ทยอยรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จำนวนประมาณ 200 กว่าคน มีการแจกธงแดงข้อความ REDEM ให้กับผู้ร่วมชุมนุม มีการเปิดเพลงปลุกใจสร้างความครื้นเครง
ตามกำหนดการ ทางผู้ชุมนุมจะเดินขบวนไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถ.วิภาวดี-รังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเวลา 16.00 น. แต่ต่อมามีการเลื่อนเวลาออกไป คาดว่าจะเคลื่อนขบวนในเวลา 17.00 น.
ระหว่างนี้ เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท ได้นำเครื่องขยายเสียงเข้ามาประกาศแจ้งให้มวลชนที่ชุมนุมทราบว่า การชุมนุมวันนี้ขัดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ แต่ผู้ชุมนุมยังคงปักหลัก และมีการตะโกนโห่ เคาะจาน กะละมัง หม้อ ขับไล่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องถอยหลบเข้าไปภายในป้อมจราจร
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงมาตรการเตรียมความพร้อมรับมือการนัดชุมนุม ว่า ตำรวจจัดเตรียมกำลังไว้รวมทั้งสิ้น 14 กองร้อย แบ่งเป็นกำลังปฏิบัติจริงจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และ 2 และกองร้อยน้ำหวาน(เจ้าหน้าที่หญิง) เป็นตัวหลักในการดูแลความสงบเรียบร้อย รวมทั้งสิ้น 5 กองร้อย และกำลังสำรองอีก 9 กองร้อย
นอกจากนี้ มีการเตรียมตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกีดขวางบริเวณกรมทหารราบที่ 1 เพื่อลดการเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
“การชุมนุมวันนี้ มีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ โดยผู้ชักชวน ผู้โพสต์ และแกนนำ รวมถึงผู้ชมนุมทุกคน ถือเป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมาย” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
17.00 น. มวลชนเริ่มเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มุ่งหน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี
เวลาประมาณ 17.40 น. มวลชนเคลื่อนขบวนถึงกองพันทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถ.วิภาวดี-รังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้ชุมนุมบางส่วนช่วยกันผลักดันตู้คอนเทนเนอร์ที่กีดขวางและตัดลวดหนามเพื่อฝ่าเข้าไปบริเวณหน้าประตูทางเข้า ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเสริมกำลังเพื่อสกัดไม่ให้มวลชนประชิดเข้าใกล้บริเวณทางเข้า
ประมาณ 18.00 น. เพจเยาวชนปลดแอก Free YOUTH ระบุหัวแถวอยู่ที่กรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดี-รังสิต ปลายแถวอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และยังมีมวลชนสมทบเข้ามาเรื่อยๆ
เวลา 19.00 น. ท่ามกลางสภาวะการเผชิญหน้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึกเกิดความวุ่นวายชุลมุนขึ้น เมื่อกลุ่มคนไม่ทราบว่าเป็นใคร ได้ขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้มีการฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม จากนั้น มีการยิงแก๊สน้ำตา จนผู้ชุมนุมแตกกระจายไป และมีเสียงดังปังคล้ายระเบิดอีก 1 ครั้ง คาดว่าเป็นเสียงระเบิดปิงปอง เจ้าหน้าที่ขอร้องไม่ให้มวลชนขว้างปาสิ่งของและให้อยู่ในแนวตนเอง ขณะที่มวลชนด้านหลังแนวปะทะประกาศผ่านรถขยายเสียงบ่อยครั้งขอให้ผู้ที่มีน้ำเปล่า-น้ำเกลือ นำไปให้การ์ดที่อยู่ด้านแนวหน้า เมื่อเริ่มมืดลงบรรยากาศก็ยิ่งตึงเครียด คาดว่าผู้ชุมนุมมีจำนวนประมาณ 700-800 คน
นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม เดินทางเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนและหลังจากนั้นได้มีการขึ้นประกาศบนรถเครื่องขยายเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้มวลชนเคลื่อนกลับเข้าไปชุมนุมที่จุดเดิม และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะถอยร่นแนว เข้ามาที่ตั้งบนสะพาน ข้างโรงพยาบาลทหารผ่านศึก
เวลา 19.15 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจขยับรถฉีดน้ำแรงดันสูงและเจ้าหน้าที่กำลังพล กลับเข้าที่ตั้งบริเวณด้านข้างโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ขณะที่ผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนตามแนวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถอยร่น จนเกิดการปะทะกันอีกครั้งบริเวณด้านข้างโรงพยาบาล
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตาหรือรถฉีดน้ำ โดยมีเพียงการ "เตรียมพร้อม" รถฉีดน้ำไว้ในแนวหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น
ประมาณ 19.30 น. การ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่า มีผู้ชุมนุมด้านโรงพยาบาลทหารผ่านศึกถูกกระสุน แต่ไม่แน่ใจว่ากระสุนยางหรือกระสุนจริง ยิงมายังบริเวณการชุมนุม เรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
19.40 น. กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่มีการกลับไปที่บริเวณกรมทหารราบที่ 1 และยังมีการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
20.20 น.ที่ซอยพหลโยธิน 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนประกาศผ่านรถขยายเสียง ขอให้ผู้ชุมนุมเปิดรั้วกั้น เจ้าหน้าที่จะเดินเข้าที่ตั้ง ย้ำว่าจะไม่มีการปะทะกัน ทำให้มวลชนที่เป็นการ์ดขวางสกัดกั้นไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ผ่าน จากนั้นตำรวจได้ออกคำสั่งอีกครั้งให้เปิดแนวรั้วด้านซ้าย มีการยื้อกระชากกันครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็สามารถผ่านมาได้
จากนั้น เจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่มาถึงหน้า รพ.ทหารผ่านศึก แล้วมาหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ท่ามกลางเสียงดังคล้ายกระสุนปืนโดยไม่ทราบฝ่ายเป็นพักๆ ทำให้มวลชนแตกฮือ กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง บางส่วนวิ่งข้ามถนนมายังวิภาวดีขาเข้า มาหลบเกาะกลางถนน โดยที่ยังมีเสียงดังคล้ายปืนอยู่ต่อเนื่อง ทำให้มวลชนที่แตกกระจัดกระเจิง ต้องคอยตะโกนหมอบๆ มีรายงานข่าวแนวร่วมราษฎรได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งจากความโกลาหล
ประมาณ 20.50 น. หลังจากเกิดเสียงดังคล้ายปืนเป็นระยะ ๆ เจ้าหน้าที่ได้ประกาศขอให้ประชาชนกลับบ้านและขอคืนพื้นที่ มีการตั้งแถวบริเวณหน้าด่านดินแดงก่อนยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืน และมีการประกาศว่า หากมีใครพยายามขัดขืนให้จับกุมทันที
เวลาราว 21.00 น. เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม และกระชับพื้นที่บริเวณด้านหน้ากรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดี-รังสิต พร้อมผลักดันให้มวลชนกลับบ้าน มีมวลชนบางส่วนทยอยกลับ แต่บางส่วนก็ยังคงปักหลักอยู่ ผู้สื่อข่าวรายงานยังคงมีการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนและมวลชนบางส่วนเป็นระยะๆ ในช่วงเวลาหลัง 21.30 น. ก่อนจะเริ่มคลี่คลายสถานการณ์ในเวลาราว 21.50 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: