กกต.ถกปมส่งตีความสถานะ “5 ส.ส.กปปส.”พรุ่งนี้ 

วันนี้ (1 มี.ค.64) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาสำนักงานกกต.ได้รับหนังสือจากทางสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขอให้พิจารณากรณี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์  นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ  อดีต รมต. และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายอิสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายถาวร เสนเนียม อดีตรมต. และ ส.ส.เขต 6 สงขลา นายชุมพล จุลใส ส.ส.เขต 1 ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์  ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุกในคดีชุมนุม กปปส. และต่อมาได้รับการประกันตัวในภายหลัง  

โดยตนได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้กับที่ประชุมกกต.วันนี้ ได้รับทราบแล้ว และทางสำนักงานฯ กำลังรวบรวมข้อเท็จจริงข้อกฎหมายต่างๆ และประสานไปยังศาลอาญาเพื่อขอคัดคำพิพากษา โดยคาดว่าจะนำเสนอข้อมูลทั้งหมดให้ที่ประชุม กกต.พิจารณาได้ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งก็เชื่อว่าน่าจะมีความชัดเจน

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคท้าย กำหนดว่า กรณีที่กกต.เห็นว่าสมาชิกภาพของส.ส.หรือส.ว.คนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลง ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย 

ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ฝ่ายกฎหมาย และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้พิจารณายืนยันสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กรณีถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุกจากการชุมนุมทางการเมืองของ กลุ่ม กปปส. เมื่อวันที่ 24 ก.พ. และต่อมาได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 25 ก.พ.

เห็นว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้ส่งผลให้ นายพุทธิพงษ์ ต้องพ้นจากการเป็น ส.ส. เนื่องจากเป็นเรื่องที่แตกต่างจากรณี นายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ที่ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวและถูกคุมขังเมื่อปี 2562 จนส่งผลให้พ้นจากความเป็นส.ส. ประกอบกับกรณีของ นายนวัธ ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยสถานะไว้ชัดเจนและเป็นบรรทัดฐานที่ผูกพันกับรัฐสภาไว้แล้ว 

ดังนั้น กรณีของ นายพุทธิพงษ์ เมื่อศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวและศาลชั้นต้นไม่ได้ออกหมายจำคุกระหว่างอุทธรณ์ เหมือนกรณีนายนวัธ จึงเห็นได้ว่า มีผลผูกพันให้ นายพุทธิพงษ์ ยังคงเป็น ส.ส. และไม่ได้มีเหตุให้พ้นความเป็น ส.ส. และไม่มีเหตุสมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา  101(6) ประกอบมาตรา 98(6) เช่นเดียวกับกรณี นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 

นายไพบูลย์ ระบุด้วยว่า หาก กกต.เห็นด้วยว่าข้อกฎหมายในประเด็นนี้มีความชัดเจนแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความสถานะส.ส.ของทั้ง 2 คนอีก