"สมพร"แม่ “ธนาธร”เข้ารับทราบข้อหาบุกรุกป่าสงวน

22 เม.ย. 2564 | 09:39 น.

“สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ”แม่ธนาธร เข้ารับทราบข้อหาบุกรุกป่าสงวน นาน 2 ชั่วโมง ทนายขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ตามกรอบเวลา คาดภายในพ.ค.จะแถลงข่าว


วันที่ 22 เม.ย. 2564  ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมทีมทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. พ.ต.อ.กฤษณะ สุขสมบูรณ์ รอง ผบก.ปทส.และ พ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต ผกก.5 บก.ปทส.เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ฐานยึดถือครอบครองทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทําไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทําการด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ป่าไม้ ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทําการใดๆ อันเป็นการทําลายป่าฯ และความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน ภายหลังกรมป่าไม้ แจ้งความเอาผิดกรณีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กว่า 450 ไร่ และออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ พื้นที่อีกกว่า 2,000 ไร่

ภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนนานกว่า2 ชั่วโมง นางสมพรปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ซึ่งทางทีมทนายความได้ระบุสั้นๆว่า วันนี้นางสมพร มารายงานตัวตามหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน จากนี้จะให้การเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรอีกครั้งตามกรอบเวลากฎหมาย และคาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้จะมีการแถลงข่าวชี้แจงอีกครั้ง

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า บก.ปทส. ได้ออกหมายเรียกนางสมพรมารับทราบข้อกล่าวหา ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ร.บ.ป่าไม้ และประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีบุกรุกยึดถือครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีกรมป่าไม้มาแจ้งความไว้ และตำรวจได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเป็นครั้งแรก ซึ่งนางสมพร ให้การปฏิเสธ และทีมทนายความจะทำหนังสือชี้แจงถ้อยคำต่อตำรวจภายหลัง เพื่อที่จะสรุปสำนวนอีกครั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการบุกรุกที่กว่า 450 ไร่ และส่วนที่สองเป็นการขยายผลหลังพบว่ามีที่ดินอีกกว่า 2,000 ไร่ ที่ครอบครอบไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งสำนวนคดีบุกรุกที่กว่า 450 ไร่นั้น มีความคืบหน้าไปมาก เหลือเพียงสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในฝั่งนางสมพร

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่านางสมพร ได้ครอบครองที่ดิน น.ส.2 โดยการซื้อเปลี่ยนมือจากบุคคลอื่นแบบผิดกฎหมาย จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ 350 ไร่ โดยแปลงที่ดินเอกสาร นส.2 ดังกล่าว เป็นประเด็นปัญหาซ้อนทับที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และมีการร้องเรียนของกลุ่มชาวบ้าน ม.14 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ที่มีแผนงานจัดตั้งป่าชุมชนของหมู่บ้าน และมีตัวแทนของนางสมพร ได้มาตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย มีการยอมรับการครอบครอง และแสดงเจตนามอบให้หมู่บ้านจัดตั้งป่าชุมชนของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาครอบครอง นส.2 แบบผิดกฎหมายของนางสมพร

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า นางสมพร ครอบครองที่ดินมือเปล่าแบบผิดกฎหมาย (ภบท.5) อีก 1 แปลง เนื้อที่ 90 ไร่ ในท้องที่ ม.3 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยตรวจสอบพบหลักฐานใบเสร็จรับเงิน ที่ระบุชื่อนางสมพร จ่ายเงินค่าที่ดินมือเปล่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 90 ไร่ ช่วงปี 2553-2556