วันที่ 11 พ.ค. 64 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้นัด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า , นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ผู้ต้องหาในฐานความผิดฐานร่วมกันยุงยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116 กรณีที่ทั้ง 3 คน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กการปราศรัยกับนักศึกษา หรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ รวมถึงเชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมทางการเมืองเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ตามที่อดีตพระพุทธะอิสระให้ทนายเข้าแจ้งความเมื่อปีที่แล้ว พร้อมส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาความเห็นสั่งฟ้อง
นายปิยบุตร เปิดเผยก่อนเข้าพบพนักงานอัยการ ว่า วันนี้พวกตนทั้งสามคนมาตามที่พนักงานสอบสวน มีความเห็นสั่งฟ้องพวกเราจากกรณีเมื่อปลายเดือน ต.ค. 2563 นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือที่สังคมรู้จักกันว่า พุทธะอิสระ มาร้องทุกข์กล่าวโทษพวกตนได้กระทำผิดกฎหมายมาตรา 116 เรื่องยุยงปลุกปั่น แล้ววันนี้พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องก็จะนำตัวพวกเรามาให้พนักงานอัยการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ เมื่อพวกเราได้อ่านบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาของนายสุวิทย์ พวกตนไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 116
เนื่องจากในสำนวนคำฟ้อง มีการกล่าวอ้างพฤติการณ์ของแต่ละคน เช่น กรณีของนายธนาธร คือนำเรื่องที่เคยมีเคยอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเมืองไทยในสภา อภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่างๆรวมถึงงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นผู้ที่มีส่วนในการก่อตั้งวารสารฟ้าเดียวกัน แล้วก็ไปปรากฏตัวในที่ชุมนุม ส่วนของตนเป็นการนำบทความ หรือเนื้อหาที่สมัยที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย และเรื่องที่เคยมีการเขียนลงในหนังสือฉบับหนึ่ง มาชี้นำว่าเข้าข่ายกระทำความผิด ส่วนกรณีของน.ส.พรรณิการ์ มีเพียงการไลฟ์สดเฟซบุ๊กในการชุมนุมดังกล่าวเท่านั้น
หากนำข้อเท็จจริงดังกล่าว ไปออกข้อสอบในกลุ่มนิติศาสตร์ ก็เชื่อว่าทุกคนจะตอบคำถามในทางเดียวกันว่าไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ซึ่งแม้ว่าพนักงานสอบสวนจะไม่มีความเห็นงดสั่งฟ้อง หรือทำความเห็นแนบมากับสำนวนคดี ก็ตั้งความหวังว่าอัยการจะพิจารณาให้ความเป็นธรรม เช่นเดียวกับที่เคยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องแบบเดียวกับคดีของนายธนาธรก่อนหน้านี้ พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งคำถามกลับไปถึงกลุ่มนักร้องเรียน ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ จะไม่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองได้ตระเวนร้องทุกข์ไปตามหน่วยงานต่าง ๆ หรือไม่
ขณะที่นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า เนื่องจากพนักงานสอบสวนเพิ่งนำสำนวนคำร้องส่งมาให้พิจารณาในวันนี้ พนักงานอัยการจึงยังไม่ได้พิจารณาข้อเท็จจริงสรุปได้ทันทีว่า สมควรมีความเห็นทางคดีนี้อย่างไร ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงเห็นควรนัดฟังคำสั่งคดีนี้อีกครั้งในวันที่ 13 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.