วันที่ 26 พ.ค. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลคุมเข้มอย่างเต็มที่ โดยพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันในเรื่องของการกระจายสถานที่ฉีดวัคซีนให้ทั่วถึง จะเห็นได้ว่ามีทั้งของรัฐ ของเอกชน ของภาคธุรกิจ ที่เตรียมพื้นที่ไว้ ทุกพื้นที่จำเป็นต้องมีผู้ฉีดวัคซีนโควิดด้วย ซึ่งต้องเป็นแพทย์และบุคคลาการทางการแพทย์ พยาบาล เป็นผู้ฉีด บางแห่งก็มีมาก บางแห่งมีน้อย บางแห่งก็ยังไม่มี ซึ่งจะจัดหาเพิ่มเติมให้เท่าที่จะทำได้ และจำเป็นต้องพิจารณาในเรื่องของการแพร่ระบาดระลอกใหม่ด้วย บางพื้นที่อันตรายมาก ปานกลาง หรืออันตรายน้อย ฉะนั้นจำเป็นต้องมีการปรับเรื่องวัคซีน
ยืนยันว่า ทุกคนได้ฉีดแน่นอน นอกจากนั้นหากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง ก็อาจจะต้องมีการปรับแผนบ้างตามที่พล.อ.ประยุทธ์ บอกไว้ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีน แต่ทุกอย่างจะต้องดำเนินการให้ครอบคลุมประชาชน 50 ล้านคนภายในปี64 นี้ ตนจึงไม่อยากเห็นการบิดเบือนข้อมูลสร้างความสับสนให้ประชาชน
นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาจี้รัฐบาลปมวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจะมาตามนัดหรือไม่นั้น สมัยเด็กนายพิธาคงอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ จึงตั้งคำถามตลอดจนบางครั้งผู้เกี่ยวข้องก็เบื่อที่จะตอบ เพราะคำถามมักจะมีคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้ว พี่น้องประชาชนเข้าใจดี แต่นายพิธาแกล้งไม่เข้าใจ ในส่วนของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้านั้นยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม
ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้าที่ได้มาก่อนหน้านี้ 117,500 โดส ฉีดเป็นเข็มแรกไปเกือบหมดแล้ว เพื่อปูพรมเยอะที่สุด ส่วนที่นายพิธาถามก็ส่งตามสัญญาคือ มิ.ย. ซึ่งไม่เห็นว่าจะเข้าใจยากตรงไหน วันนี้คู่สัญญาเขายืนยันตามเดิม และวัคซีนก็ทยอยมา ไม่อยากให้นายพิธาสร้างความสับสนให้กับประชาชน สงสารประเทศบ้าง หยุดพูดบ้างก็ได้ ไม่ตายหรอก อย่าซ้ำเติมประเทศเลย ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ไม่ใช่ขัดแข้งขัดขาลูกเดียว บ้านเมืองจะเดินหน้าไม่ได้ วันนี้เป็นเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกัน