วันที่ 26 พ.ค. 2564 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จากการรายงานมีเยาวชนจากสถานพินิจฯ ติดเชื้อโควิด-19 ตนได้หารือและเน้นย้ำกับ พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้ยึดตามแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) อย่างเคร่งครัด และฝากความห่วงใยแก่เยาวชนและเจ้าหน้าที่ทุกคน ขอให้เข้มแข็ง และร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่กระทรวงยุติธรรมและกรมกำหนด โดยเฉพาะ มาตรฐาน Standard Operating Procedure (SOP) หากปฏิบัติตามจะช่วยให้ไม่มีผู้ติดเชื้อหรือติดเชื้อน้อย และจะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังให้ยกระดับการเฝ้าระวัง ประสานงานกับ ศบค.จังหวัด หรือหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ตรวจหาเชื้อกับเยาวชนเชิงรุก ให้ชะลอการย้ายเด็กและเยาวชนไปก่อน ให้เพิ่มวันเวลาการให้บริการเยี่ยมญาติทางไกล เพื่อลดความวิตกกังวล รวมถึงการจัดเตรียมพื้นที่ในสถานพินิจฯ เป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราวเพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยในสถานพินิจฯ ที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ไว้ด้วยแล้ว
พ.ต.ท. วรรณพงษ์ กล่าวว่า กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนได้เร่งการตรวจเชิงรุกเพิ่มเติม และประกาศใช้มาตรการ COVID Measures เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมจากหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ ซึ่งมาตรการดังกล่าวประกอบด้วย 1. Protect ป้องกันและเฝ้า ระวัง กักตัว คัดกรอง ลดปริมาณเด็กและเยาวชน และเข้มงวดห้ามเจ้าหน้าที่ไปพื้นที่เสี่ยงอย่างเด็ดขาด รวมถึงครอบครัวด้วย และงดกิจกรรมภายนอกต่างๆ 2. Early Detection ค้นหา แยกกลุ่มให้เร็ว Swab หรือ Rapid Test ยืนยันให้ได้มากที่สุด และ 3. Treatment รักษาโดยเร็ว ลดความเสี่ยง และเร่งการฉีดวัคซีนโควิด
โดยให้ศูนย์ฝึกและอบรมฯ และสถานพินิจฯ ทุกแห่งดำเนินการในระดับพื้นที่เป็นสำคัญ ร่วมกับทาง ศบค.จังหวัด ซึ่งกรมพินิจฯ จะกำกับติดตาม สนับสนุน และผลักดันผ่านระบบสาธารณสุขหลักโดยให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินการอย่างเคร่งครัดและเข้มงวด ยืนยันว่ายังคงควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวได้ พร้อมให้จัดหาทรัพยากรที่จำเป็นลงไปยังพื้นที่เป้าหมายแล้ว
ทั้งนี้กรมพินิจฯ ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการและรายงานผลการปฏิบัติต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยธ. และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของกระทรวงยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ของกรมพินิจฯ ให้สาธารณะ ได้รับทราบทุกวัน ผ่านช่องทางการสื่อสารทุกรูปแบบ