วันนี้ (5 มิ.ย. 64) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าประชาธิปัตย์(ปชป.) ลงพื้นที่เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เปิดตัว นายกิตพล เชิดชูกิจกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตประเวศ และอดีตประธานสภา กทม. เป็นผู้สมัคร ส.ส.เขตสวนหลวง-ประเวศ แทน นายสามารถ มะลูลีม อดีต ส.ส.ที่เป็นผู้สมัครคนเดิม ถือเป็นการเปิดตัวคนแรกของพรรค ในพื้นที่ กทม. และจากนี้ไปจะเปิดตัวผู้สมัคร สก. และสข. ที่เป็นคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ของพรรค ตามแคมเปญ “เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ”
นายจุรินทร์ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมเปิดตัวผู้สมัคร สก.และสข. จะเป็นสัญญาณว่าจะมีการเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครใช่หรือไม่ ว่า ไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการเลือกตั้งในช่วงเวลาใด เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอำนาจในการกำหนดการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และ สก.-สข. แต่ถึงอย่างไรก็หนีไม่พ้นจะต้องมีการเลือกตั้ง ไม่ช้าก็เร็ว จะมีแต่เพียงผู้ว่าที่มาจากการแต่งตั้งตลอดกาลเป็นไปไม่ได้
“ประเทศพัฒนาไปเยอะ กทม. เปลี่ยนแปลงก้าวไปข้างหน้า แต่ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ก็ต้องเตรียมความพร้อม เพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และเลือกตั้งทั่วประเทศ” นายจุรินทร์ ระบุ
เมื่อถามาจากสถานการณ์จะมีเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในเดือนใด นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และกกต.จะเป็นผู้กำหนด แต่ไม่ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อม
ส่วนกระแสข่าวการยุบสภา และการปรับครม. นายจุรินทร์ กล่าวว่า ต้องถามนายกรัฐมนตรี และจนถึงขณะนี้พรรคยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ รัฐบาลยังคงทำหน้าที่ พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วม ต้องทำหน้าที่ตนเองให้สมบูรณ์ที่สุด
“ส่วนอะไรจะเกิดเป็นเรื่องของอนาคต ถ้ามัวแต่กังวลไม่ทำงาน ประชาชนจะเสียโอกาส เสียเวลาประเทศ พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ทำเช่นนั้น แต่จะขอทำหน้าที่ของตัวเองจนนาทีสุดท้าย ไม่ว่าจะยุบสภาหรืออยู่ครบวาระ นี่คือสิ่งที่พูดและยืนยันจะทำให้เห็น เพราะพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้เป็นยุคทำ ทำให้เห็นและพิสูจน์ ทำได้จริงทำได้ไวทำได้ทุกเรื่อง ตามที่ประกาศไว้” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุ
นายจุรินทร์ ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์มีเอกภาพ ที่ผ่านมาที่มีความเห็นต่างนั้นเป็นเรื่องของตัวบุคคล แต่ภาพรวมพรรคประชาธิปัตย์มีเอกภาพ และข้อยุติ คือ มติของพรรค ซึ่งล่าสุดการลงมติร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2565 พรรคก็สนับสนุนให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะงบประมาณรายจ่ายคือตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ถือเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ที่สุดของระบบเศรษฐกิจ และเป็นตัวขับเคลื่อนจีดีพี
“ถ้าไม่มีงบประมาณเศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนไม่ได้ การรับงบประมาณเป็นเรื่องถูกต้อง โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีทางที่เป็นอย่างอื่น ต้องยกมือสนับสนุน เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีหลักไม่ใช่ทำงานรายวัน ถึงอยู่มาได้ ถึงวันนี้และจะอยู่ต่อไป”
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรียังไว้ใจพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายจุรินทร์ ตอบว่า ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี แต่พรรคประชาธิปัตย์เมื่อทำงานร่วมกับใครก็มีหลักเกณฑ์ ไม่จำเป็นต้องมานั่งเอาใจหรือพูดคุยรายวัน ไม่เช่นนั้พรรคคงไม่อยู่มาได้จนถึงวันนี้
“ผมเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 8 ก็มีหลักเกณฑ์ภายใต้กฏกติกาของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น เมื่อตัดสินใจอะไรไปแล้ว ไว้วางใจได้ ยกเว้นผิดเงื่อนไขจากที่ตกลงกันไว้ ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต” นายจุรินทร์ ระบุ