ไม่มีใครคาดว่า วลี “นะจ๊ะ” ที่ออกมาจากปากผู้นำประเทศไทย จะอิตติดเทรนติดเทรนด์อันดับ 1 จากการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน โดย "บิ๊กตู่"ยืนยันว่าไม่ล็อกดาวน์ กรุงเทพ อย่างอารมณ์ดี ท่ามกลางความวิตกของคนทั้งประเทศที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 ไม่นับรวมปัญหาเตียงและอุปกรณ์รองรับคนป่วยไม่พอ
ตกดึกวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และ พื้นที่ชายแดนภาคใต้ สาระสำคัญคือ ไม่ให้นั่งทานอาหารในร้าน และล็อกแคมป์คนงาน มีผลตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนเป็นต้นไป เป็นเวลา 1 เดือน
เช้าวันที่ 27 มิ.ย. วลี “นะจ๊ะ” จะถูกนำมาล้อเลียนในโลกโซเชี่ยล ด้วยแฮกแทก #นะจ๊ะ จนฮิตติดอันดับ 1ทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว
เปิดโอกาสให้ วิโรจน์ ลักขณาดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ฉวยจังหวะนี้ ออกมาทวิตล้อเลี่ยนว่า “ผู้สูงอายุต้องรอเตียงจนตายคาบ้าน #นะจ๊ะ เด็กตัวน้อยๆ ติดโควิด ยังหาเตียงไม่ได้นะจ๊ะ ฯลฯ
อันที่จริงคำสร้อย “นะจ๊ะ”ไม่ใช่เรื่องใหม่ คนที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ก็ใช้คำสร้อยว่า “นะจ๊ะ” จนบรรดาสื่อต่างๆให้ฉายาว่า "หลวงพ่อนะจ๊ะ"
เคยมีลูกศิษย์คนหนึ่ง หยิบคำพูดของหลวงพ่อธัมมชโยว่า “ปิดบัญชี มาสั่งสมบารมีกันเลยนะจ๊ะ ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอาเงินทั้งหมดไปให้วัดพระธรรมกาย”ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน
“นะ จะบอกให้” เป็นอีกวลี ของ “คำรณ หว่างหวังศรี” นักข่าวและพิธีกรชื่อดัง ที่ฮิตติดปากชาวบ้านมากว่า 30 ปี
ด้วยสไตล์นักข่าวภาคสนาม ที่ไม่เหมือนใคร คำรณ เข้ารายการด้วยเสียงเพลง โด่งดังจนกลายเป็นนักร้อง ออกเทป 2 ชุด พร้อมๆกับรายงานข่าวสะท้อนวิถีชีวิต และสภาพปัญหาของประชาชนทั่วประเทศ
หลังรายงานข่าวทุกครั้ง คำรณ จำจบด้วยคำว่า “นะ จะบอกให้”
และสโลแกน แบบฉบับอีสานบ้านเฮาว่า “เด้อ…ซิบอกไห่”