วันที่ 29 มิ.ย.64 ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ รีบแก้ปัญหาโรคลัมปีสกินกำลังระบาดหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกำลังแพร่ระบาดไปในหลายพื้นที่ ของประเทศ หลังรับปากที่ประชุมสภาไว้ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ยืนยันจะเร่งเยียวยาเกษตรกรด้วยอัตราค่าเสียหายใหม่พร้อมกับจัดหาวัคซีนไปฉีดวัวโดยเร็วที่สุด แต่จนถึงวันนี้ (28 มิถุนายน) เป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์แล้ว ที่รัฐมนตรีประภัตรบอกสภาว่า สั่งการให้กรมปศุสัตว์ เร่งจัดหาวัคซีนและไปฉีดวัคซีนให้วัวของเกษตรกรนั้น เกษตรกรยังไม่พบเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่เลย
มีส.ส.จำนวนหนึ่งติดต่อสอบถามไปยังปศุสัตว์จังหวัดว่าเมื่อไหร่จะไปฉีดวัคซีนให้วัวของเกษตรกรในพื้นที่ คำตอบที่ได้รับจากปศุสัตว์จังหวัดคือ “กำลังทำแผนการฉีดวัคซีน” นับเป็นคำตอบที่ไม่ตรงกับคำถามคือ “เมื่อไหร่จะไปฉีดวัคซีน” คำถามคืออะไรเกิดขึ้นที่กรมปศุสัตว์และปศุสัตว์จังหวัด ในเวลาเดียวกันกลับมีบุคคลจำนวนหนึ่งลงไปรับจ้างฉีดวัคซีนวัวให้เกษตรกร โดยคิดค่าบริการตัวละ 500-700 บาท
“เกษตรกรต้องเห็นวัวของตัวเองตายไปทีละตัวสองตัว หลายคนวัวตายจนหมดแล้ว ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งนอนร้องไห้ที่บ้าน และอย่างดีที่ทำได้คือบอกส.ส.ในพื้นที่ของตนเท่านั้น
วิกฤตโรคลัมปีสกินเกิดขึ้นคู่ขนานกับโรคโควิด-19 ทั้งสองโรคมีหลักการแก้ปัญหาเหมือนกัน คือ ด้วยความเร็ว ความแม่นยำ ความทั่วถึงของการแก้ปัญหา ซึ่งดูเหมือนกรมปศุสัตว์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังไปไม่ถึงการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและควรจะเป็น ถ้ากรมปศุสัตว์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังคิดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก ผมขอเสนอข้อคิดง่าย ๆ และปฏิบัติได้ คือ 1) อะไรที่ศบค.ทำถูกต้องให้ทำตาม และ 2) อะไรที่ศบค.ทำไม่ถูกต้องไม่ต้องทำซ้ำ เกษตรกรเลี้ยงวัวรอไม่ไหวแล้วจริง ๆ ครับ” ศ.ดร.กนก กล่าว