วันนี้( 29 มิ.ย.64) นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากกระทำการอันขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน กรณีเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐมีมติเลือก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติด้านจริยธรรมตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา 219 ที่กำหนดให้ ส.ส.ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม และขัดต่อพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 21 และ มาตรา 45
ทั้งยังขัดต่อข้อบังคับของพรรคพลังประชารัฐ ที่กำหนดว่าต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าผลประโยชน์ส่วนตัน ยึดมั่นหลักนิติธรรม และประพฤติตนในกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส เคยต้องคำพิพากษาจำคุกในคดียาเสพติดของศาลประเทศออสเตรเลีย
ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญที่ประสงค์ให้บุคคลที่มีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรมจริยธรรมที่ดีเข้ามาบริหารกิจการบ้านเมือง โดยปรากฏอยู่ในคำปรารภของรัฐธรรมนูญ แต่การกระทำดังกล่าวของพรรคพลังประชารัฐ กลับไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้ แสดงให้เห็นถึงการไม่เคารพต่อกฎหมาย ไม่นำพาต่อการพัฒนาการด้านคุณธรรมจริยธรรม จึงเป็นเหตุให้มายื่นยุบพรรคพลังประชารัฐในวันนี้
“คราวที่แล้วศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้พูดเรื่องจริยธรรม แต่พูดเรื่องคุณสมบัติ เพราะในคำร้องเน้นไปที่ประเด็นคุณสมบัติ แต่คราวนี้เป็นเรื่องจริยธรรม ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ยังไม่ได้พิสูจน์ อีกทั้งในคำพิพากษาก็ระบุว่าเป็นสารเสพติด และยังปรากฏคำรับสารภาพ รวมถึงการพูดในสภาของ รอ.ธรรมนัส เองก็ขัดข้อเท็จจริง ประเทศไทยมาถึงขนาดนี้แล้วไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนมาตรวจสอบเรียกร้อง หากผู้บริหารประเทศมีจิตสำนึก มีคุณธรรมเรื่องแบบนี้ก็ไม่เกิด”
นอกจากนี้กลุ่มประชาชนคนไทย จะมีการยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้สอบจริยธรรมนักการเมือง 3 ราย คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะเป็นผู้แต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ 2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค มีส่วนให้ ร.อ.ธรรมนัส เป็นเลขาธิการพรรค และ3.ร.อ.ธรรมนัส และหลังจากนั้นจะไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อนำแถลงการณ์ยื่นให้นายกฯ ซึ่งคงไม่เรียกร้องให้เสียสละแล้ว เพราะไม่ได้รับการตอบรับ และเพิกเฉย
"ดังนั้นเราจะแสดงความประสงค์เราต่อนายกฯและครม.ชุดนี้ ส่วนกิจกรรมการเคลื่อนไหวยังเป็นเรื่องการปราศรัยขับเคลื่อนให้ประชาชนได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น และทำให้เห็นว่าประชาชนสามารถร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศโดยก้าวข้ามนักการเมืองได้"