ลูกพรรคภูมิใจไทยร้องผู้บริหารรัฐบาลเยียวยา“วัคซีนโควิด-19”แทนแจกเงิน

02 ก.ค. 2564 | 05:22 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.ค. 2564 | 12:32 น.

ส.ส.ภูมิใจไทยร้องผู้บริหารรัฐบาลเยียวยา "วัคซีนโควิด-19" ให้เร็ว ง่ายกว่าแจกเงิน สอนมวยต้องเร่งจัดหาวัคซีนที่มีความหลากหลายให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย แผนฉีดวัคซีนต้องรัดกุมทั่วถึงกว่านี้  

สมาชิกพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ยังคงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาการระบาดของ “โควิด-19” อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับ “วัคซีนโควิด-19” ที่กระจายไม่ทั่วถึง 

 

ล่าสุด ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2564 ได้มีตัวแทน ส.ส.จากหลายพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาฯ พิจารณาหามาตรการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาและผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 

 

และจากการบริหารจัดการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ศบค. รวมทั้งช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยมี 6 ญัตติ เป็นของพรรคเพื่อไทย 2 ญัตติ ก้าวไกล ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ เสรีรวมไทย พรรคละ 1 ญัตติ

 

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า  การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” รอบนี้ผู้คนจำนวนมากออกมาบ่นดังๆ ไปในทิศทางเดียวกันหมด เชื่อว่าเขาทนไม่ไหวแล้ว อยากจะให้เสียงของเขาดังไปถึงผู้บริหารหันมามอง และรับฟัง 

 

แต่เสียงของเขาตนไม่ทราบว่าจะดังพอหรือไม่ แต่เชื่อว่าพวกเราส.ส.ที่ประชาชนเลือกมา ทุกคนล้วนแล้วแต่มีเจตนาจะเป็นกระบอกเสียง สะท้อนเสียงไปสู่ผู้บริหาร

เมื่อถามเขาว่าอยากจะให้ช่วยเหลือเยียวยาอย่างไร ซึ่งวันนี้ประชาชนอยากจะได้รับ “วัคซีน” อย่างทั่วถึงให้เร็วที่สุด และมีทางเลือกให้เขามากที่สุด ดังนั้นก็ต้องฝากถึงรัฐบาลว่า ต้องเร่งจัดหาวัคซีนที่มีความหลากหลายให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย แผนในการฉีดวัคซีนต้องรัดกุมทั่วถึงกว่านี้ 

 

ตัวอย่างในกทม.เป็นพื้นที่จัดการกับวัคซีนที่มีปัญหามาก เพราะไม่เป็นไปตามหลักระบาดวิทยา แน่นอนว่าพื้นที่ใดเสี่ยงมากก็จะได้ฉีดก่อน แต่ทุกพื้นที่ในกทม.ไม่ได้ระบาดหมด 

 

ดังนั้น พื้นที่ใดที่ไม่มีระบาด จำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้กลุ่มเปราะบางก่อน แต่กทม.ไม่ได้ทำ แต่เราจะเห็นภาพที่ลูกได้ฉีดก่อนพ่อ แม่ หรือคนที่ลงทะเบียนก่อนแต่ได้ฉีดที่หลัง เพราะการบริหารจัดการที่มีปัญหา
 

ส.ส.ภูมิใจไทยผู้นี้ อภิปรายด้วยว่า การที่รัฐบาลประกาศฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีผลกระทบถ้วนหน้า แต่ก็ยังดีที่มีการประกาศ “เยียวยา” ผู้ได้รับผลกระทบ 6 จังหวัด แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่แค่ 6 จังหวัด 

 

“ความจริงการเยียวยาเบื้องต้นการให้เขาเข้าถึงวัคซีน ก็ถือเป็นการเยียวยาแล้ว บางทีอาจจะง่ายกว่าการจ่ายเงิน เพราะการที่ทำให้เขาเข้าถึงวัคซีนได้เร็ว ก็ทำให้ชีวิตกลับมาเป็นปกติได้เร็วที่สุด และในทุกอาชีพ จะมีการเยียวยาอย่างไรยังไม่มีความชัดเจนเลย คนที่ยังไม่สมควรได้รับการเยียวยาก็ได้รับ”

 

จึงขอฝากไปถึงรัฐบาลในเรื่องการสั่งการจากนี้ไปไม่ ว่าจะเป็นการ “ล็อกดาวน์” หรือ ปิดอะไรต่างๆ ขอให้ชัดเจนในเรื่องการสื่อสาร จะเอาแบบไหน เชื่อว่าประชาชนพร้อม แต่ขอให้เวลาเตรียมพร้อมพอ วันนี้บางเรื่องตัดสินใจเร็วเป็นเรื่องดี แต่บางครั้งการตัดสินใจที่เร็วโดยไม่มีแผนรองรับ เป็นการสร้างความโกลาหล

 

นายสิริพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องเยียวยาทุกกลุ่มอาชีพถ้วนหน้า ที่ผ่านมาในการจ่ายเงินเยียวยาของรัฐบาลไม่ตรงจุด ไม่ตรงเป้าหมาย ไม่ตรงกลุ่ม เพราะยังมีอีกจำนวนมากที่ไม่ได้รับการเยียวยา 

 

“จึงขอเสนอว่าเยียวยาแบบถ้วนหน้ากับทุกคนที่ไม่มีรายได้ประจำ และขอฝากถึงรัฐบาลว่า อย่าให้น้ำตาของประชาชนที่เสียไป ที่เขายอมเสียสละเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต้องเสียเปล่า เช็ดน้ำตาให้เขาบ้าง เยียวยาให้เขาบ้าง” ส.ส.ภูมิใจไทย ระบุ