วันที่ 5 ก.ค.2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศเผยแพร่ ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการ พ.ศ. ๒๕๖๔ ระบุว่า
โดยที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๒ กําหนดให้การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ เป็นไป ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินกําหนด แต่ต้องไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงิน ราชการลับ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๙๒ ประกอบมาตรา ๕ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน จึงได้ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินว่าด้วยหลักเกณฑ์ การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ พ.ศ. ๒๕๖๔
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ พ.ศ. ๒๕๕๕
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน “ผู้ว่าการ” หมายความว่า ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
“เงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ” หมายความว่า เงินงบประมาณ รายจ่ายประจําปีที่กําหนดให้เป็นเงินราชการลับหรือเงินที่ได้รับอนุมัติเพิ่มเติมให้เป็นเงินราชการลับ
“หน่วยรับตรวจ” หมายความว่า หน่วยรับตรวจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ได้รับจัดสรรหรือที่ใช้งบประมาณเงินราชการลับ หรือ เงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ
“ผู้รับตรวจ” หมายความว่า หัวหน้าส่วนราชการหรือหัวหน้าหน่วยงานผู้รับผิดชอบ ในการปฏิบัติราชการหรือการบริหารของหน่วยรับตรวจ
ข้อ ๕ การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดไว้ตามระเบียบนี้ ทั้งนี้ ต้องไม่มีลักษณะที่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของ การใช้จ่ายเงินราชการลับ
ข้อ 6 ให้ผู้ว่าการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับ เงินราชการลับให้แล้วเสร็จภายในสองร้อยสี่สิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ
ข้อ ๗ ในการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับนั้น ผู้ว่าการและบุคคลที่ผู้ว่าการแต่งตั้งตามวรรคสอง ต้องกระทําเป็นเรื่องลับ
ผู้ว่าการอาจแต่งตั้งคณะทํางานหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นข้าราชการสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อช่วยในการตรวจสอบก็ได้ แต่ต้องมีจํานวนน้อยที่สุดเท่าที่จําเป็น
ในกรณีผู้ว่าการพ้นจากตําแหน่งตามมาตรา ๕๐ หรือต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๕๑ แห่งพระราชบัญญัติประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้รองผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดินซึ่งมีอาวุโสสูงสุดปฏิบัติหน้าที่แทน
ข้อ ๘ ให้ผู้ว่าการจัดให้มีการประชุมเปิดตรวจร่วมกับผู้รับตรวจเพื่อชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ และขอบเขตในการตรวจสอบ
ก่อนการประชุมเปิดตรวจ ให้ผู้ว่าการแจ้งผู้รับตรวจเพื่อทราบรายชื่อบุคคลที่เป็นคณะทํางาน หรือเจ้าหน้าที่ที่ช่วยในการตรวจสอบ รวมทั้งวันและเวลาที่จะเข้าตรวจสอบให้ชัดเจน
ข้อ 9 ในการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ ของหน่วยรับตรวจ ให้ผู้ว่าการดําเนินการ ดังต่อไปนี้
(๑) ตรวจสอบว่าการใช้จ่ายเงินราชการลับนั้นเป็นไปตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย การใช้งบประมาณเงินราชการลับ พ.ศ. ๒๕๔๗ หรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่าการใช้จ่ายเงินราชการลับนั้น เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ขอรับจัดสรรงบประมาณหรือไม่
(๒) กรณีที่หน่วยรับตรวจมีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคําสั่งเกี่ยวกับการบริหาร การใช้จ่ายเงินราชการลับ ให้ตรวจสอบว่าการบริหารเงินราชการลับนั้นเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคําสั่งนั้นด้วยหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่าการใช้จ่ายเงินราชการลับนั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ที่ขอรับจัดสรรงบประมาณหรือไม่
(๓) ตรวจสอบว่าระเบียบ ข้อบังคับ หรือคําสั่งของหน่วยรับตรวจเป็นไปตามระเบียบ สํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้งบประมาณเงินราชการลับ พ.ศ. ๒๕๔๗ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือไม่
ข้อ ๑๐ ในการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ ของหน่วยรับตรวจ ให้ตรวจสอบรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณเงินราชการลับตามที่กําหนดไว้ใน กฎหมายและระเบียบว่าด้วยการนั้น
ข้อ ๑๑ ในกรณีจําเป็นที่ต้องขอข้อมูล ข้อเท็จจริง หรือรับคําชี้แจงจากหน่วยรับตรวจเป็นหนังสือ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตรวจสอบ ให้ผู้ว่าการเป็นผู้มีอํานาจลงนามในหนังสือ
ในการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ หากจําเป็นต้องใช้อํานาจตามมาตรา ๔๓ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้กระทําโดยผู้ว่าการเท่านั้น
ข้อ ๑๒ ก่อนแจ้งผลการตรวจสอบ ผู้ว่าการต้องจัดให้มีการประชุมปิดตรวจร่วมกับผู้รับตรวจ เพื่อแจ้งผลการตรวจสอบเบื้องต้น
ในการประชุมปิดตรวจ ให้ผู้ว่าการมีหนังสือแจ้งผู้รับตรวจเพื่อทราบถึงการปิดตรวจ
ก่อนการประชุมปิดตรวจตามวรรคหนึ่ง ต้องเปิดโอกาสให้หน่วยรับตรวจได้ชี้แจงเหตุผล หรือความจําเป็นในการดําเนินการประกอบการพิจารณาแจ้งผลการตรวจสอบด้วย
ข้อ ๑๓ ให้ผู้ว่าการรายงานผลการตรวจสอบต่อคณะกรรมการเพื่อทราบ
ในการประชุมของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นการประชุมเฉพาะคณะกรรมการ และผู้ว่าการเท่านั้น
ข้อ ๑๔ การแจ้งผลการตรวจสอบให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยแจ้งผลการตรวจสอบต่อผู้รับตรวจ และนายกรัฐมนตรี หรือประธานองค์กรอิสระ แล้วแต่กรณี
ข้อ ๑๕ ข้อความ ข้อเท็จจริง หรือข้อมูลที่ได้มาจากการตรวจสอบตามระเบียบนี้ รวมถึง รายงานการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ ไม่ว่าจะได้ จัดทําไว้ในรูปแบบใด ให้ถือเป็นข้อมูลข่าวสารลับ และให้นําระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาใช้บังคับ
ข้อ ๑๖ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ว่าการ คณะทํางาน หรือเจ้าหน้าที่ที่ผู้ว่าการแต่งตั้งเพื่อช่วยในการตรวจสอบ ผู้ใดเปิดเผยข้อมูลที่ได้มาเนื่องจากการปฏิบัติ หน้าที่เกี่ยวกับการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ ตามระเบียบนี้ และมิใช่เป็นการกระทําตามหน้าที่ราชการ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทําความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และอาจต้องรับโทษตามมาตรา ๑๐๔ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ถือว่าเป็นการกระทําผิดทางจริยธรรมด้วย
ข้อ ๑๗ การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับ ตามระเบียบนี้ ให้ดําเนินการตรวจสอบในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป
ข้อ ๑๘ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ และคณะกรรมการ มีอํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบังคับใช้ระเบียบนี้
ในกรณีมีเหตุอันสมควร คณะกรรมการอาจยกเว้นหรือผ่อนผันการปฏิบัติตามความในระเบียบนี้ได้
ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔
พลเอก ชนะทัพ อินทามระ
ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน