วันที่ 15 ก.ค.2564 ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งคำถามถึงกระทรวงสาธารณสุขแทนประชาชน 5 คำถาม โดยระบุว่า คำถามที่ 1 ทำไมข้อมูลเรื่องการสั่งซื้อวัคซีนตั้งแต่ชนิดวัคซีน, ราคา, ปริมาณ จนถึงวันเวลาส่งมอบ จึงสับสน การอ้างว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงทั่วโลก ทำให้วัคซีนเป็นตลาดของผู้ขาย ไม่เพียงพอที่จะทำให้คนเชื่อ เพราะหลายประเทศได้วัคซีนไปก่อนหน้าและปริมาณมากกว่าไทย
ส่วนคำถามที่ 2 ทำไมรัฐบาลจึงสั่งซื้อวัคซีน Sinovac เพิ่มอีก 20 ล้านโดส ทั้งที่เชื้อไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่น ได้กลายพันธุ์ไปเป็นสายพันธุ์เดลตาและอื่น ๆ แล้ว ทำให้เข้าใจว่าวัคซีน Sinovac มีประสิทธิภาพต่ำ ต่อการสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสที่กลายพันธุ์แล้ว โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับวัคซีนชนิดอื่น ๆ เช่น Pfizer และ Moderna เป็นต้น
นอกจากนี้ คำถามที่ 3 ทำไมการส่งมอบวัคซีน Astrazeneca จำนวน 60 ล้านโดส ที่กระทรวงสาธารณสุข เคยให้ข้อมูลจึงล่าช้าออกไปจากเดือนธันวาคม 2564 เป็นพฤษภาคม 2565 ทั้งที่รัฐบาลไทยได้เงินอุดหนุน 600 ล้านไปก่อนหน้านี้ เปรียบเสมือนการวางมัดจำซื้อล่วงหน้า และโรงงานผลิต Astrazeneca ตั้งอยู่ในประเทศไทย
สำหรับคำถามที่ 4 การให้วัคซีนสลับชนิด (Brand) ระหว่างเข็มที่ 1 และ 2 นั้น ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันสูงขึ้นจริงหรือ ถ้าจริง ทำไมไม่ประกาศตั้งแต่ต้น ว่าจะให้สลับชนิดวัคซีน ความไม่ชัดเจนเรื่องประสิทธิภาพ ของการสลับชนิดวัคซีนนี้ ทำให้คนจำนวนมากเข้าใจเอาเองว่าการสลับชนิดวัคซีน ระหว่าง Astrazeneca กับ Sinovac เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 เป็นเพราะจำนวนวัคซีนแต่ละชนิดไม่เพียงพอที่จะฉีดทั้งเข็มที่ 1 และ 2 ได้
และคำถามที่ 5 คนไทยจะได้ฉีดวัคซีนครบทุกคนเมื่อไร เพราะประชาชนจำนวนมากต้องนอนรักษาตัวที่บ้าน ตามมีตามเกิดด้วยความเสี่ยงสูง เพราะเตียง ในโรงพยาบาลทุกประเภทเต็มหมดแล้ว
“ท่ามกลางคำถามมากมายเรื่องวัคซีน เรื่องที่รัฐบาลโดยศบค.ตัดสินใจให้แพทย์แผนปัจจุบันสั่งใช้ ยาฟ้าทะลายโจรที่เป็นสมุนไพรไทยในการรักษาโรคโควิด 19 โดยเฉพาะในช่วงรักษาตัวที่บ้าน ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประชาชน ต้องขอขอบพระคุณไว้ในโอกาสนี้ด้วยครับ” ศ.ดร.กนก กล่าว