ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 16 ก.ค. 2564 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร โดยจุดแรกเดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)นครสวรรค์ ร่วมประชุมติดตามการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะการพัฒนาฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ในพื้นที่ เช่น บึงบอระเพ็ด บึงนาราง เป็นต้น
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่านโยบายของรัฐบาลในการ ในการบริหารจัดการน้ำ เน้นเรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่เพื่อการเกษตรและการท่องเที่ยว โดย จ.นครสวรรค์มีบึงบอระเพ็ด เป็นบึงธรรมชาติขนาดใหญ่ เบื้องต้นต้องใช้งบประมาณในการพัฒนาฟื้นฟู วงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท หากจะรองบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด คงจะช้าไป
ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสวมหมวกอีกหลายใบที่พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ดำเนินการ เห็นว่าโครงการเหล่านี้เป็นประโยชน์ของจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดใหญ่ของภาคเหนือตอนล่าง และมีแหล่งน้ำที่ใหญ่ของประเทศไทย เป็นแหล่งน้ำอุปโภค-บริโภคและการเกษตร รวมถึงการท่องเที่ยว จะพยายามนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ดังกล่าว โดยจะผลักดันเรื่องงบกลาง ตั้งเป็นงบผูกพันมาให้ ระหว่างนี้อยากให้พื้นที่ทำโครงการเสนอมาแบบครบวงจร เพื่อให้โครงการนี้เป็นหน้าเป็นตาคน อีกทั้งจะเป็นการเปิดช่องทางการสร้างรายได้ให้ประชาชน จังหวัดนครสวรรค์ ตนพร้อมจะเป็นผู้ขับเคลื่อนในฐานะผู้แทนราษฎรด้วย
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวอีกว่า ในขณะที่บ้านเมืองกำลังเกิดวิกฤติจากการแพร่เชื้อระบาดโควิด-19 ซึ่งทางด้านสาธารณสุขกำลังเร่งแก้ไขปัญหาและเราในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแล แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน จะหยุดนิ่งไม่ได้ จึงต้องขออนุญาตผู้ว่าราชการจังหวัด เดินทางลงมาในพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการต่าง ๆ ให้กับประชาชน ทั้งนึ้ปัญหาใหญ่การแก้ไขปัญหาโควิด-19 ตอนนี้คือเรื่องของวัคซีน วันนี้นายกรัฐมนตรีเป็นสุภาพบุรุษ รับผิดชอบและแก้ไขปัญหาทุกเรื่องอย่างเต็มที่ให้กับพี่น้องประชาชน
อย่างไรก็ตาม หากมีท้องถิ่นที่เข้มแข็ง จะทำให้แต่ละจังหวัดเป็นจังหวัดที่เข้มแข็ง ลดภาระของรัฐบาลได้ ดังนั้นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีการกระจายอำนาจลงท้องถิ่น ถือเป็นเรื่องสำคัญทำให้ท้องถิ่นเกิดความเข้มแข็ง และยอมรับว่าสถานการณ์โควิด ทำให้การดำเนินการอะไรต่าง ๆ เกิดความลำบากไปบ้าง แต่ขอให้พื้นที่สะท้อนความต้องการผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดมาได้ เพื่อให้ปัญหาต่าง ๆได้รับการแก้ไข
จากนั้นร้อยเอกธรรมนัสพร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลบรรพตพิสัย อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ตรวจเยี่ยมการการก่อสร้างตึกอุบัติเหตุพร้อมมอบชุดเครื่องนอน 100 ชุด สำหรับการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามผู้ป่วยโควิด-19 พร้อมน้ำดื่ม
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว ภายหลังมอบชุดเตียงสนามว่า ได้รับการประสานจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ในฐานะที่เป็นคนไทยต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติ ถือเป็นวัฒนธรรมที่เป็น อัตลักษณ์ของคนไทย ที่ไม่ทิ้งกันไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือต่อกัน ทั้งนี้ภาคเอกชนและประชาชนจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาวิกฤตโควิด-19 ร่วมกับรัฐบาล เชื่อว่าอีกไม่นานเราจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน และขอบคุณและให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล ผู้เป็นด่านหน้าแก้ปัญหาวิกฤติการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้อย่างเข้มแข็ง
คณะยังได้เดินทางไปโรงพยาบาลบึงนาราง อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร เพื่อมอบอุปกรณ์เครื่องนอนสำหรับโรงพยาบาลสนาม 200 ชุดและ น้ำดื่มให้กับโรงพยาบาลไว้ สำหรับช่วยเหลือดูแลประชาชนจากสถานการณ์โควิดด้วย