บรรยากาศการชุมนุมของ “ม็อบราษฎร” ที่บุกทำเนียบรัฐบาลนั้น เมื่อเวลา 18.15 น.วันที่ 18 ก.ค.64 มวลชนคณะราษฎรและแนวร่วม ที่เคลื่อนไหวเดินเท้าจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มายังทำเนียบรัฐบาล ไม่สามารถเข้าประชิดที่ทำเนียบรัฐบาลได้ เพราะเจ้าหน้าที่ได้สกัดการเคลื่อนไหวไว้ที่มหาวิทยาลัยราชมงคลพระนคร ด้วยแก๊สน้ำตา ทำให้มวลชนล่าถอยไปที่แยกนางเลิ้ง
โดยได้ทำกิจกรรมเผาหุ่นจำลองที่ใช้เป็นสัญลักษณ์แทนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมกับกล่าวคำสาปแช่งคณะรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ต่อมา นายธนัชพงศ์ แกดำ แกนนำหมู่บ้านทะลุฟ้า ในฐานะผู้นำม็อบ 18 กรกฎา ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงถึงชัยชนะของปฏิบัติการของประชาชนแม้จะได้รับแก๊สน้ำตาตอบแทน พร้อมย้ำถึง 3 ข้อเรียกร้อง ให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก , จัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และ ปรับลดงบประมาณของกองทัพ พร้อมขอให้มวลชนถอยเพื่อไปตั้งหลัก
ระหว่างที่มวลชนทำกิจกรรมเผาหุ่นสาปแช่งรัฐบาลนั้น ยังพบว่ามีเสียงดังคล้ายพลุ และมีกลุ่มควันสีขาวคลุ้งอยู่ทั่วบริเวณที่มวลชนร่วมทำกิจกรรม
ทั้งนี้มีเสียงมวลชนตะโกนเตือนให้ระวังสิ่งของที่อาจหล่นจากฟ้าและทำอันตรายกับศีรษะได้ โดยมวลชนที่ยังร่วมกิจกรรมมีอาการแสบตา และผิวหนัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18.40 น. แกนนำผู้ชุมนุม ได้ประกาศยุติการชุมนุม และให้มวลชนเดินทางกลับ
ขณะที่การ์ดผ้าพันคอสีเขียว ยังคงทำหน้าที่เป็นแนวมนุษย์ขวางระหว่างแนวเจ้าหน้าที่กับพื้นที่ที่มวลชนใช้ทำกิจกรรมก่อนหน้านี้